เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 เว็บไซต์ นสพ.South China Moring Post ของฮ่องกง เสนอรายงานพิเศษ “Coronavirus: in Thailand, sex work moves online as pandemic batters business” เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 พ.ค. 2563 ว่าด้วยความพยายามปรับตัวของคนทำงานหรือกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลไทยในการสกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงผู้ขายบริการทางเพศ (Sex Worker) อาชีพที่ไม่ได้รับการยอมรับในทางกฎหมาย แต่มีอยู่จริงในสังคมไทยด้วย
รายงานข่าวเริ่มต้นด้วยเรื่องเล่าของ “เชอร์รี่ (Cherry)” สาวประเภทสองที่หันมา “โชว์สยิว” ทางออนไลน์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ย่านสถานบันเทิงที่มีชื่อเสียงอย่างกรุงเทพฯ และพัทยาถูกปิดตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. 2563 เพื่อสกัดโรคระบาด คนทำงานกลางคืนจำนวนมากตัดสินใจเดินทางกลับภูมิลำเนาไปเป็นเกษตรกร บางคนหันมาขายอาหาร ระหว่างรอความหวังว่าสถานบริการ เช่น บาร์อะโกโกและอาบอบนวด จะกลับมาเปิด และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาอีกครั้ง
เชอร์รี่ เล่าว่า ก่อนวิกฤติไวรัสโควิด-19 ตนเคยมีรายได้มากกว่าพันเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3 หมื่นบาท ใน 1 เดือนทำงานเพียง 2 สัปดาห์ และไปทำงานมาแล้วหลายเมืองของหลายประเทศ ไม่ว่ากรุงเทพฯ ประเทศไทย กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย รวมถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อเกิดเหตุโรคระบาดของครั้งใหญ่ การเดินทางข้ามประเทศถูกปิด เมื่อหนี้สินยังมีและไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลได้ เทคโนโลยีจึงเป็นทางออก
การโชว์สยิวนั้น ผู้เข้าชมจะจ่ายเงินคนละ 10 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 300 บาทต่อ 1 ชั่วโมง และถ้าอยากให้ทำอะไรมากขึ้นผู้เข้าชมต้องจ่ายเงินเพิ่ม เชอร์รี่ กล่าวว่า ในการโชว์แต่ละครั้งตนหวังว่าจะมีรายได้เข้ามา 500 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 15,000 บาท ผู้เข้าชมหลายคนเบื่อหน่ายสื่อลามกแบบเดิมๆ รวมถึงผู้ชายที่แต่งงานแล้วแต่ไม่เคยเห็นสาวประเภทสองหรือกะเทย (Ladyboy) คนเหล่านี้ต้องการชมอะไรสดๆ (Real-Time) และต้องการความรู้สึกที่ควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม ตนก็ปฏิเสธที่จะทำตามคำขอของผู้เข้าชมที่ดูรุนแรงเกินไป
“การโชว์ตลอด 2 เดือนมานี้ทำให้มีรายได้ 2,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8 หมื่นบาทหลังหักค่าธรรมเนียมใช้บริการเว็บไซต์แล้ว แต่ก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาด หนทางทำเงินมีอยู่มากมายสำหรับคนที่เต็มใจจะเสี่ยง มีเพื่อนคนหนึ่งได้เงินมากกว่า 15,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 450,000 บาท ในการบินไปอยู่กับชาวชาวตะวันออกกลางเพียงไม่กี่วัน เทคโนโลยีเปิดโอกาสใหม่ให้ได้ติดต่อกับลูกค้าทั่วโลก” สาวประเภทสองรายนี้ ระบุ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ในขณะที่ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพียง 3,402 คน และเสียชีวิตเพียง 56 ราย นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 แต่ปัญหาคือเศรษฐกิจกลับมาซบเซาอีกครั้ง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) พยากรณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 อาจหดตัวลงได้ถึงร้อยละ 6 เนื่องจากโรคระบาดสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างการท่องเที่ยวและการค้าขาย
แรงงานนอกระบบได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยเป็นเงิน 160 เหรียญสหรัฐ หรือราว 5,000 บาทต่อเดือน แต่นั่นไม่รวมถึงผู้ขายบริการทางเพศ อาชีพที่สังคมไทยซึงมีลักษณะอนุรักษ์นิยมรังเกียจและดูหมิ่นเสมอมา จึงไม่ได้รับการยอมรับทางกฎหมาย เห็นได้จากการมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 (Prevention and Suppression of Prostitution Act introduced in 1996) ขึ้นมาเพื่อเอาผิดอาชีพดังกล่าว
ทันตา เลาวิลาวัณยกุล (Thantha Laovilawanyakul) ตัวแทนจากมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ (Empower Foundation) ซึ่งทำงานรณรงค์ด้านสิทธิของผู้ขายบริการทางเพศ กล่าวว่า งานบริการทางเพศมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาด ประเทศไทยมีสถานบริการทำนองนี้หลากหลายประเภท รายได้ถูกส่งกลับไปยังพื้นที่ยากจนที่ที่งานและการศึกษามีอยู่อย่างจำกัด
รศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ (Chalidaporn Songsamphan) นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ และประธานมูลนิธิ SWING ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือผู้ขายบริการทางเพศเช่นกัน ให้ความเห็นว่า ในสังคมไทย ผู้ขายบริการทางเพศเหมือน “ช้างในห้อง” ทุกคนมองเห็นแต่ไม่มีใครอยากพูดถึง หลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลายลง ทั้งรัฐและคนไทยควรคิดให้ชัดเจนถึงเกี่ยวกับอาชีพนี้เพราะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า สถานบันเทิงที่ยังถูกปิดต่อไปอย่างไม่มีกำหนด และบาร์อะโกโกอาจไม่เข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) ตามแนวคิดการเว้นระยะห่างทางสังคม นี่จึงเป็นคำถามที่แขวนอยู่เหนืออนาคตเศรษฐกิจยามค่ำคืนของประเทศไทย แต่ในสถานการณ์ที่อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่างการขายบริการทางเพศกำลังปรับตัว
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.scmp.com/week-asia/lifestyle-culture/article/3085968/no-go-bars-thailand-sex-work-moves-online-pandemic
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี