นิวเดลี (รอยเตอร์) - ฟ้าผ่าคนตาย 100 กว่าคนในอินเดีย บาดเจ็บอีก 20 คน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ส่งทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยลงพื้นที่ประสบภัยพายุฝนฟ้าคะนอง เพื่อช่วยเหลือประชาชนแล้ว

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุฟ้าผ่าคนตายในอินเดียไป 113 คนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติในรัฐพิหาร รายงานว่า ฟ้าผ่าคนเสียชีวิต 83 คนในรัฐพิหาร และบาดเจ็บอีก 20 คน ต้องส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล ส่วนในรัฐอุตตระประเทศ ซึ่งอยู่ติดกับรัฐพิหาร มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าอีก 20 คน รวมผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าทั้งหมด 103 คน ด้านเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านการจัดการภัยพิบัติในรัฐพิหาร ระบุว่า เหตุฟ้าผ่าที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 83 คนในพิหารครั้งนี้ นับเป็นยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดจากฟ้าผ่าอีกครั้งหนึ่งของรัฐพิหาร ส่วนในรัฐอุตตระประเทศ เหตุฟ้าผ่าส่วนใหญ่ เกิดขึ้นใกล้กับเมืองพยัคฆราช ซึ่งเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของอินเดีย ที่ตั้งอยู่ใกล้กับพรมแดนประเทศเนปาล

ขณะที่นายกรัฐมนตรีโมดีแจ้งต่อประชาชนว่า ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลงพื้นที่ประสบภัยพายุฝนฟ้าคะนองแล้ว หลังจากเหตุฝนตกกระหน่ำและฟ้าผ่า ได้สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนเป็นวงกว้าง และทำให้ต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก ส่วนเจ้าหน้าที่ประกาศเตือนประชาชนให้อยู่แต่ภายในบ้าน หลังพยากรณ์อากาศในอินเดียคาดว่า สภาพอากาศจะเลวร้ายลงยิ่งกว่านี้

อินเดียเคยสร้างสถิติเกิดฟ้าผ่าสูงที่สุด 36,749 ครั้งภายในเวลาเพียง 13 ชั่วโมงเมื่อเดือนเมษายนปี 2561 และในปีเดียวกันนั้น มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่ามากกว่า 2,300 คน

ทั้งนี้ เหตุฟ้าผ่าคนตายเกิดขึ้นบ่อยครั้งในอินเดีย จนเกือบจะกลายเป็นเรื่องปกติไป ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักในฤดูมรสุม ส่วนสาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากฟ้าผ่า เนื่องจากอินเดียมีคนที่ทำงานอยู่กลางแจ้งมากกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก ทำให้เสี่ยงที่จะถูกฟ้าผ่า อีกทั้งยังขาดแคนการประกาศทางอุตุนิยมวิทยาที่มแม่นยำ เมื่อประชาชนไม่ได้รับรู้ข่าวสารว่าจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวและหาทางป้องกัน การหาที่หลบที่เหมาะสม เพราะไม่ได้รับการแจ้งข่าวสารล่วงหน้า ทำให้ประชาชนขาดการป้องกันและเตรียมความพร้อม