สื่อนอกตีข่าว'นวดแผนไทย'ลมหายใจรวยริน เหตุไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติ

สื่อนอกตีข่าว'นวดแผนไทย'ลมหายใจรวยริน เหตุไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติ

วันอาทิตย์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 15.23 น.

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เสนอข่าว Thai Massage Loses Its Charm Behind Masks, Social Distancing ระบุว่า แม้จะกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง แต่บรรดาร้านนวดแผนไทยก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมาตรการลดความเสี่ยงการระบาดของไวรัสโควิด-19 อาทิ Wiboon Utsahajit ประธานของ Siam Wellness Group Pcl บริษัทที่มีกิจการร้านนวดและสปาถึง 70 แห่งทั่วประเทศ ยอมรับว่า การกลับมาเปิดใหม่ต้องลงทุนสูงขึ้น เช่น ติดตั้งอุปกรณ์ฆ่าเชื้อด้วยแสงอุลตราไวโอเลตในทุกห้อง รวมถึงการทำความสะอาด ในขณะที่ลูกค้ามีจำนวนน้อยลง

สำหรับประเทศไทย กิจการนวดแผนไทยมีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness tourism) โดยในปี 2560 มีเม็ดเงินในส่วนนี้ถึง 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 4 แสนล้านบาท รายงานของ Global Wellness Institute ระบุว่า เม็ดเงินดังกล่าวสูงกว่าที่เพื่อนบ้านใกล้กันอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซียทำได้รวมกันเสียอีก โดยมีคนไทย 530,000 คนทำงานอยู่ในภาคส่วนนี้ หรือเท่ากับร้อยละ 1.4 ของกำลังแรงงานไทย และมีสัดส่วนร้อยละ 2.6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของไทยต่อปี


ข้อมูลจากกระทรวงกระทรวงสาธารณสุขของไทย ระบุว่า ทั่วประเทศไทยมีร้านนวดแผนไทยประมาณ 10,000 แห่ง ขณะที่จำนวนสปาแบบหรูหรามีอยู่ 2,800 แห่ง คิดเป็นมูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่ง สมประวิณ มันประเสริฐ (Somprawin Manprasert) ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พนักงานนวดเป็นอาชีพที่ใช้แรงงานมากและเป็นทักษะเฉพาะทาง จึงยากที่จะเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น การแข่งขันในวงการนี้มีมากอยู่แล้วด้วยจำนวนร้านที่มาก การอยู่รอดจึงเป็นเรื่องท้าทาย

ทั้งนี้ จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแนวคิดจากการต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปสู่การเน้นเฉพาะนักท่องเที่ยวมีฐานะร่ำรวย ผลที่ตามมาคือมันจะไม่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก สมประวิณ ให้ความเห็นว่า ข้อจำกัดการเดินทางจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในขณะที่ตลาดในประเทศก็มีแรงกดดันจากผู้คนที่รายได้ลดลงและต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ย้อนไปในทศวรรษ 1990s (ปี 2533-2542) ช่วงปลายยุคดังกล่าวประเทศไทยเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทางการไทยในขณะนั้นได้หาทางออกให้กับผู้ว่างงานด้วยการฝึกอบรมทักษะการนวดแผนไทย ซึ่งเป็นอาชีพที่ไม่ต้องคำนึงถึงวุฒิการศึกษา จากนั้นในปี 2541 Siam Wellness จึงก่อตั้งเป็นแห่งแรกในฐานะบริษัทด้านสถานประกอบการนวดแผนไทยและสปา และเมื่อผ่านไปอีก 10 ปีซึ่งก็มีวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่อีกครั้ง นวดแผนไทยก็ได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในฐานะการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ

ขณะที่ Natthawipa Sangkakit ซึ่งมีครอบครัวทำกิจการร้านนวด Phikul Massage and Spa ในย่านชานเมืองของกรุงเทพฯ ระบุว่า ในช่วงล็อกดาวน์ที่ร้านนวดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกสั่งปิด บรรดาพนักงานนวดส่วนใหญ่ก็กลับภูมิลำเนา และแม้จะกลับมาเปิดได้แต่ด้วยจำนวนลูกค้าที่ลดลง ทำให้พนักงานบางคนเลือกที่จะกลับไปทำเกษตรที่บ้านหรือออกไปหางานอื่นๆ

กิจการนวดแผนไทยส่วนใหญ่เป็นร้านเล็กๆ ริมถนน คิดค่าบริการ 3-10 เหรียญสหรัฐ หรือราว 100-300 บาทต่อชั่วโมง ลูกค้าจำนวนมากเป็นคนไทยด้วยกัน ค่าบริการจะถูกแบ่งระหว่างร้านกับพนักงานนวด ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ เช่น น้ำมัน และตอนนี้รวมถึงหน้ากากอนามัย กิจการกลุ่มนี้มีแรงงาน 140,000 คน ที่ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือในฐานะแรงงานนอกระบบ (informal worker) จากรัฐบาล

ยังไม่นับรวมคนที่ลงทะเบียนในฐานะคนทำงานด้านอื่นๆ ด้วยเหตุผลความเป็นส่วนตัว และยังมีพนักงานนวดที่เป็นชาวต่างชาติ รวมถึงพนักงานนวดที่ทำงานในสปาหรูและได้รับเงินเดือนตามโรงแรมและรีสอร์ท อนึ่ง แม้จะได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดอีกครั้ง แต่ร้านนวดหลายแห่งยังคงปิดต่อไปเนื่องด้วยอุปสรรคด้านสุขภาพและการท่องเที่ยวอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ในเร็วๆ นี้ จะมีชาวต่างชาติจากบางประเทศได้รับอนุญาตให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ ภายใต้โครงการแลกเปลี่ยนการเดินทาง (Travel Bubble) แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า นักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้จะได้รับบริการเสมือนช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งในเดือน ธ.ค. 2562 นวดแผนไทยได้รับการรับรองจาก “ยูเนสโก” (UNESCO) องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ขณะที่ เกาเจ๋อฮุย (Gao Ze Hui) ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน กล่าวว่า ตนเคยไปเยือนประเทศไทย 2 ครั้งและได้ใช้บริการร้านนวดแผนไทย แต่การนวดนั้นต้องดีต่อสุขภาพ ดังนั้นตอนนี้ต้องระวังในเรื่องนี้ด้วย

ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.bnnbloomberg.ca/thai-massage-loses-its-charm-behind-masks-social-distancing-1.1463975

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top