7 ส.ค. 2563 เว็บไซต์ นสพ.The Independent ของอังกฤษ เสนอข่าว Beirut explosion: Protesters tear-gassed after trying to storm Lebanon's parliament as anger grows over port blast ระบุว่า เหตุระเบิดจากสารแอมโมเนียมไนเตรทที่ท่าเรือในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2563 จนทำให้ผู้มีบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงทำให้ชาวเลบานอน 250,000 คนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเนื่องจากบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จุดกระแสความไม่พอใจรัฐบาลและนำไปสู่การชุมนุมประท้วงของประชาชนอีกครั้ง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ไม่สนล็อกดาวน์ ปชช.เลบานอนประท้วงไล่รัฐบาลแม้‘โควิด-19’ระบาด

โดยเมื่อคืนวันที่ 6 ส.ค. 2563 ตามเวลาท้องถิ่นของเลบานอน กองกำลังฝ่ายความมั่นคงเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมบริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภา หลังจากก่อนหน้านั้นผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งเริ่มจุดไฟเผาสิ่งของและขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนก่อน เคยมีการชุมนุมประท้วงรัฐบาลมาแล้วจากสารพัดปัญหา ทั้งเศรษฐกิจ การว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และกฎการแบ่งแยกนิกายทางศาสนา

หลังเกิดเหตุระเบิด เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ไปเยือนเลบานอน และกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้มีการไต่สวนระหว่างประเทศเกี่ยวกับสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นสัญญาณเร่งด่วนในการปฏิรูปเพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริต อันเป็นชนวนแห่งความโกรธแค้นของประชาชนในขณะนี้ แต่หากไม่มีการปฏิรูปเลบานอนก็จะยิ่งจมดิ่งต่อไป 

ไมเคิล อุน (Michel Aoun) ประธานาธิบดีเลบานอน ยืนยันว่า รัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมโดยจะทำงานอย่างไม่หยุดพักจนกว่าจะได้ตัวผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า มีผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมแล้ว 16 คน แต่นั่นไม่อาจบรรเทาความโกรธแค้นของประชาชนได้ อาทิ มารี-คลอด นาจิม (Marie-Claude Najm) รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของเลบานอน ถูกผู้ประท้วงขับไล่ด้วยการสาดน้ำใส่ ท่ามกลางเสียงตะโกนให้ลาออกและขับไล่รัฐบาล

ขอบคุณที่มา independent