เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 สำนักข่าว CGTN ของจีน เสนอข่าว Survey: 95% of Chinese users would rather ditch iPhone than lose WeChat ระบุว่า ผลการสำรวจของเว่ยป๋อ (Weibo) ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ในจีนที่มีลักษณะคล้ายทวิตเตอร์ (Twitter) ของสหรัฐอเมริกา พบว่า ร้อยละ 95 ของกลุ่มตัวอย่าง 1.2 ล้านคน พร้อมจะเลิกใช้โทรศัพท์มือถือไอโฟน (iPhone) ดีกว่าที่จะเลิกใช้วีแชต (WeChat) แอพพลิเคชั่นสนทนายอดนิยมของชาวจีน
ผลการสำรวจดังกล่าวเกิดขึ้นจากกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งระงับการทำธุรกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับวีแชตภายใน 45 วัน ซึ่งแม้ว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ได้ระบุขอบเขตที่ชัดเจน แต่คาดว่า 2 ยักษ์ใหญ่ด้านระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถือของสหรัฐฯ อย่างแอปเปิล (Apple) และกูเกิล (Google) น่าจะถอดแอพฯ วีแชต ออกจากร้านจำหน่ายแอพฯ (App Store และ Play Store) ของตน
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า วีแชต ถูกพัฒนาขึ้นโดย เท็นเซ็นต์ (Tencent) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน มีผู้ใช้ทั่วโลกรวม 1.2 พันล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ทั้งนี้ ในสังคมจีนแล้วแอพฯ ดังกล่าวคือเครื่องมือสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะเกี่ยวข้องตั้งแต่การสนทนาทั้งเรื่องส่วนตัวและธุรกิจ การซื้อสินค้า การชำระเงิน การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) และอื่นๆ ขณะที่ แอปเปิล ใช้เวลาอยู่หลายปีในการเจาะตลาดจีน โดยไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 ทำรายได้ไป 4.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งหมด
โค่ว หมิง-ฉี (Kuo Ming-chi) นักวิเคราะห์ของ TF International Securities มองว่า หากแอปเปิลลบวีแชตออกจากระบบของตน ยอดขายมือถือไอโฟนทั่วโลกอาจลดลงได้ถึงร้อยละ 25-30 ขณะที่อุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ของแอปเปิล เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แม็ค (Mac) แท็บเล็ตไอแพ็ต (iPad) นาฬิกาแอปเปิลว็อช ( Apple Watch) ยอดขายอาจลดลงร้อยละ 15-25 อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารเท็นเซ็นต์ คาดว่า คำสั่งแบนวีแชตอาจมีผลเฉพาะในสหรัฐฯ โดยไม่บังคับรวมมาถึงในจีนที่ใช้ชื่อว่า เว่ยซิน (Weixin) แต่ก็ต้องรอดูความชัดเจนของรัฐบาลสหรัฐฯ อีกครั้ง
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า หลังมีข่าวรัฐบาลสหรัฐฯ จะแบนวีแชต ทำให้ชาวอเมริกันที่ต้องการใช้แอพฯ ดังกล่าวรีบติดตั้งก่อนที่จะหายไปจากร้านค้าแอพฯ รวมถึงหันไปใช้ คิวคิว (QQ) แทนเนื่องจากยังไม่มีคำสั่งห้าม เห็นได้จากยอดผู้ดาวนฺโหลดแอพฯ วีแชต เพิ่มขึ้นร้อยละ 41 โดยเฉลี่ย 6 วันนับจากสัปดาห์ที่แล้ว เช่นเดียวกับยอดดาวน์โหลดแอพฯ คิวคิว เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี