28 กันยายน 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียลองบีช (CSULA) ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ของสหรัฐฯ ประกาศแถลงการณ์ให้นักศึกษาทุกคนในวิทยาเขตรับการกักตัว หลังตรวจพบว่ามีนักศึกษาที่ได้เข้าร่วมการจับกลุ่มรวมตัวมีผลทดสอบโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นบวกจำนวน 5 ราย 

เจน โคลส โคโนเลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ ระบุในแถลงการณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกวันศุกร์ (25 ก.ย.) หลังมหาวิทยาลัยฯ ทราบว่ามีนักศึกษาจำนวนหนึ่งเข้าร่วมในงานรวมตัวกันนอกวิทยาเขต ซึ่งขัดต่อแนวปฏิบัติป้องกันโรคโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยฯ โดยในนักศึกษาเหล่านี้พบผู้มีผลทดสอบโรคโควิด-19 เป็นบวก 5 ราย

“เราได้กักตัวผู้อาศัยทุกรายในวิทยาเขตแล้ว และเราจะดำเนินการทดสอบโรคโควิด-19 ให้แก่นักศึกษาทุกคนเร็วๆ นี้ ด้วยความร่วมมือจากสำนักสาธารณสุขและบริการมนุษย์ลองบีช” แถลงการณ์ระบุ พร้อมเสริมว่ามหาวิทยาลัยฯ จะระงับการเรียนการสอนแบบเจอหน้าชั่วคราวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พร้อมเดินหน้าตรวจทานจำนวนเจ้าหน้าที่ในวิทยาเขต

โคโนเลย์เผยว่าทางการได้วางแผนที่จะทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสถานที่ต่างๆ ตามความจำเป็น และตรวจสอบความประพฤติของนักศึกษาที่เกี่ยวข้อง

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของแคลิฟอร์เนียกล่าวเมื่อวันศุกร์ (25 ก.ย.) ว่าสถานการณ์โรคโควิด-19 ล่าสุดของรัฐนั้นน่าเป็นห่วง เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณขั้นต้นที่แสดงให้เห็นว่า “การระบาดระลอกสอง” กำลังจะเริ่มขึ้น

ทั้งนี้ ลองบีช ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งและเมืองท่าเรือในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ มีสำนักสาธารณสุขที่ไม่ขึ้นตรงต่อระบบสาธารณสุขของเทศมณฑลลอสแอนเจลิส โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่าลองบีชมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลรวม 11,798 ราย จากผู้อาศัยทั้งหมด 460,000 ราย เมื่อนับถึงเที่ยงคืนวันศุกร์ (25 ก.ย.)

มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียลองบีช ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 322 เอเคอร์ (ราว 814 ไร่) เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของระบบมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียทั้ง 23 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยฯ ได้ปรับใช้แนวทางป้องกันโรคโควิด-19 ในภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงนี้ด้วยการลดจำนวนนักศึกษาในหอพัก และจำนวนชั้นเรียนที่เปิดสอนในวิทยาเขต