20 ตุลาคม 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน บิสซิเนส อินไซเดอร์ (Business Insider) เว็บไซต์ข่าวสารธุรกิจและการเงินของสหรัฐฯ เผยแพร่บทความที่ระบุว่าขณะหลักเกณฑ์ส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน “คลี่คลายลง” และวิถีชีวิตของผู้คนส่วนมากหวนคืนสู่ภาวะปกติ แต่สหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปยังคงดิ้นรนอยู่กับการยับยั้งการระบาดของโรคและการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
บทความดังกล่าวเผยว่าการฟื้นตัวของจีนเห็นได้อย่างชัดเจนในสัปดาห์ทอง ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาวระดับชาติระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. โดยมีประชาชน 637 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของประชากร 1.4 พันล้านคนของจีน เดินทางทั่วประเทศในสัปดาห์ดังกล่าว และใช้จ่ายเงินทั้งสิ้น 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.15 ล้านล้านบาท)
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าที่กำลังจะมาถึงของสหรัฐฯ “ยังห่างไกลจากความสำเร็จของสัปดาห์ทอง” ท่ามกลางความท้าทายอันน่าสะพรึงกลัวที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญจากการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ พุ่งเกิน 8 ล้านรายแล้ว โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในโลก โดยมีผู้ป่วยสะสมและผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุด ครองสัดส่วนราว 1 ใน 5 ของจำนวนผู้ป่วยและผู้ป่วยเสียชีวิตทั่วโลก
ความสำเร็จของจีนในการยับยั้งโรคโควิด-19 เป็นผลมาจากหลายปัจจัย อาทิ ศักยภาพการตรวจโรคในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว การบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์และการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด รวมถึงการที่ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันทั่วไปอย่างเคร่งครัด เช่น สวมหน้ากากอนามัย ขณะที่สหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปดำเนินตามมาตรการเหล่านี้ได้ไม่ดีนัก
ทั้งนี้ บทความเสริมว่าสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปต้องดำเนินการอีกมากมาย เพื่อคลี่คลายการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศให้อยู่ในระดับเดียวกับจีน พร้อมย้ำเตือนว่าจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี