แนชวิลล์/เทนเนสซี (รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์/ซีเอ็นเอ็น) - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตโต้เถียงกันทุกหัวข้อตลอด 90 นาที ของการโต้วาทีหรือดีเบตนัดสุดท้ายเมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวานนี้ตามเวลาในไทย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดีเบต เปิดฉากอย่างเรียบๆ เมื่อคริสเทน เวลเกอร์ผู้ดำเนินรายการจากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ให้ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบก่อนในหัวข้อไวรัสโควิด-19 และปิดไมโครโฟนของไบเดนตามกติกาใหม่ที่ตั้งขึ้นหลังจากทั้งสองฝ่ายขัดจังหวะกันในดีเบตนัดแรกเมื่อปลายเดือนก่อน แต่เมื่อแต่ละฝ่ายหมดเวลาตอบ 2 นาทีในแต่ละหัวข้อ และผู้ดำเนินรายการเปิดไมโครโฟนให้โต้เถียงกัน ทั้งสองฝ่ายต่างพูดแทรกกันและไม่ยอมฟังผู้ดำเนินรายการที่พยายามห้ามหลายครั้งในเกือบทุกหัวข้อ
หัวข้อแรกเรื่องไวรัสโควิด-19 ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่าโรคนี้กำลังจะหมดไปจากสหรัฐ ทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับไวรัส ไม่สามารถขังตัวเองไว้ในห้องใต้ดินได้ ไบเดนสวนกลับว่า ทุกคนกำลังเรียนรู้ที่จะตายเพราะโรคนี้ ผู้ที่ไม่รับผิดชอบ ทำให้มีคนตายมากมายไม่ควรเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป หัวข้อถัดไปเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ ทรัมป์อ้างว่า ครอบครัวไบเดนร่ำรวยขึ้นมาเพราะกลุ่มมีอำนาจในรัสเซีย ขณะที่เขาไม่เคยได้เงินจากรัสเซีย และอ้างเรื่องอีเมลน่าตกใจในแล็ปท็อปที่ถูกระบุว่าเป็นของนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของไบเดนที่เคยทำงานให้บริษัทแก๊สในยูเครนช่วงที่บิดาเป็นรองประธานาธิบดี ไบเดนโต้ว่า ไม่เคยรับเงินแม้แต่เพนนีเดียวจากต่างประเทศ แต่ทรัมป์รวยขึ้นเพราะต่างชาติรวมทั้งจีน
หัวข้อที่สามคือเรื่องเด็กกว่า 500 คน ที่ถูกแยกจากพ่อแม่ขณะลอบเข้าสหรัฐ ทรัมป์ยอมรับว่ากำลังพยายามอย่างหนัก แต่เด็กหลายคนมากับแก๊งค้ามนุษย์โดยไม่มีพ่อแม่ ไบเดนกล่าวหารัฐบาลทรัมป์ว่า ก่ออาชญากรรมที่แยกเด็กจากพ่อแม่ หัวข้อถัดมาคือเรื่องการประกันสุขภาพ ทรัมป์พูดถึงกฎหมายโอบามาแคร์ว่า ส่วนที่เลวร้ายที่สุดคือทำให้แต่ละคนหมดอำนาจตัดสินใจของตัวเองเพราะบังคับให้ต้องซื้อประกันสุขภาพไม่เช่นนั้นจะถูกปรับ และเมื่อไบเดนบอกว่า จะให้โอบามาแคร์เป็นทางเลือก ไม่บังคับทรัมป์กล่าวว่า นโยบายของไบเดนจะเป็นการรักษาพยาบาลแบบสังคมนิยม
ส่วนหัวข้อเรื่องสีผิวในอเมริกา ทรัมป์คุยว่า เขาเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดสำหรับชาวอเมริกันผิวดำ อาจจะยกเว้นประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ที่เลิกทาสขณะที่ไบเดนทำงานการเมืองมาหลายสิบปีแต่ไม่ได้ทำอะไรให้ชุมชนคนผิวดำ ไบเดนเสียดสีกลับว่า ลินคอล์นเป็นประธานาธิบดีเหยียดผิวมากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เคยมีมา ปิดท้ายด้วยหัวข้อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทรัมป์กล่าวหาไบเดนว่าต้องการเลิกอุตสาหกรรมน้ำมัน
ด้านสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นสำรวจความเห็นผู้ชมทันทีที่เสร็จสิ้นการถ่ายทอดสดการดีเบต กลุ่มตัวอย่าง 585 คน เป็นผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง ร้อยละ 32 เป็นชาวเดโมแครต ร้อยละ 31 เป็น ชาวรีพับลิกัน ที่เหลือไม่สังกัดพรรคใดผู้ตอบร้อยละ 53 คิดว่าไบเดนชนะดีเบตผู้ตอบร้อยละ 39 คิดว่าทรัมป์เป็นฝ่ายชนะอย่างไรก็ดี ดีเบตนัดที่สองซึ่งเป็นนัดสุดท้ายขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 พฤศจิกายน ตามเวลาสหรัฐ ไม่สามารถเปลี่ยนใจผู้ตอบมากนัก เพราะคะแนนนิยมของไบเดนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 55 ก่อนดีเบตเป็นร้อยละ 56 หลังดีเบต ส่วนทรัมป์มีคะแนนนิยมลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 42 ก่อนดีเบตเป็นร้อยละ 41
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี