ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับชัยชนะของ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเป็นครั้งแรก และประณามม็อบที่หนุนเขา ที่บุกโจมตีรัฐสภาสหรัฐว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้ายเลวทราม ขณะที่บรรดานักการเมืองหลายคนต้องการให้มีการใช้บทบัญญัติ
แก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ปลดประธานาธิบดีเพื่อไม้ให้สร้างความเสียหายให้กับประเทศอีก ลือหึ่งเจ้าตัวหารือเตรียมนิรโทษกรรมให้ตัวเองก่อนพ้นตำแหน่ง ขณะที่จ้าหน้าที่ตำรวจประจำอาการรัฐสภาเสียชีวิต ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5 รายแล้ว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในคลิปวีดิโอบันทึกเทปที่ทำเนียบขาว และนำออกมาเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐ ยอมรับว่านายโจ ไบเดน จะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐ นับเป็นการกล่าวยอมรับชัยชนะของไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นครั้งแรกข ทรัมป์กล่าวด้วยว่า การได้มารับใช้ชาวอเมริกันในฐานะประธานาธิบดีของประเทศ นับเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตของเขาพร้อมกันนี้ เขายังประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายเลวทราม และระบุว่าผู้ที่ก่อจลาจล ได้สร้างความมีมลทินมัวหมองให้แก่ประชาธิปไตยของสหรัฐ ทรัมป์ระบุว่า ต่อจากนี้ไป เขาจะไปสนใจแต่เพียงการทำให้การถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่นเท่านั้น
แถลงการณ์ล่าสุดของทรัมป์ เป็นการกลับหลังหันแบบตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับท่าทีของเขาก่อนหน้านี้ จนเมื่อเช้าวันพฤหัสดีที่ผ่านมา ทรัมป์ยังคงยืนกรานกล่าวหาอย่างไมมีหลักฐานว่าถูกปล้นชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอยู่เลย และตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ยืนกรานว่าเขาเป็นผู้ชนะและกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่า มีการโกงเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง แต่การฟ้องร้องศาลของเขา เพื่อให้พลิกผลการเลือกตั้ง ถูกศาลยกฟ้องไปเป็น 100 คดี
ความคืบหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่บรรดาผู้นำ 2 สภาของสหรัฐ คือสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ต่างออกมาเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีปลดประธานาธิบดีทรัมป์ ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคของพรรคเดโมแครต โดยวุฒิสมาชิก ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาชุดใหม่ที่จะเริ่มการประชุมครั้งใหม่ในปลายเดือนนี้ กล่าวว่า ทรัมป์ไม่ควรจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้แต่วันเดียว และหากคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ไม่ยอมปลดเขาออกจากตำแหน่ง โดยใช้กฎหมายบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 หรืออำนาจพิเศษหมายเลข 25 วุฒิสภาจะเริ่มต้นกระบวนการถอดถอนเอง ขณะที่แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ทรัมป์ควรจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เขาเป็นบุคคลอันตรายมาก และนี่คือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
ทั้งนี้ อำนาจพิเศษหมายเลข 25 กำหนดว่า หากประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ สามารถแต่งตั้งให้รองประธานาธิบดีทำหน้าที่แทนได้ โดยต้องการเสียงส่วนใหญ่ของคณะรัฐมนตรีและเสียงของรองประธานาธิบดี ยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งไปยังผู้นำสภาคองเกรสว่า รองประธานาธิบดีจะทำหน้าที่รักษาการแทนประธานาธิบดีซึ่งไม่สมบูรณ์พอที่จะปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการใช้อำนาจพิเศษหมายเลข 25 นับตั้งแต่ปี 1967 ที่มีการร่างบทแก้ไขนี้ขึ้นมา
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับสถานการณ์ แถลงในวันพฤหัสบดีว่า ทรัมป์ได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการนิรโทษกรรมให้ตัวเองในอีกไม่กี่สัปดาห์มานี้ โดยการนิรโทษกรรมในลักษณะเช่นนี้ จะเป็นการใช้อำนาจของประธานาธิบดีเป็นกรณีพิเศษของทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งแพ้เลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว และทรัมป์จะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวปฏิเสธกระแสข่าวทรัมป์กำลังหารือเรื่องการนิรโทษกรรมตัวเอง
ขณะที่นางอิเลน เชา รัฐมนตรีคมนาคมและนางเบตซีย์ เดวอส รัฐมนตรีการศึกษา เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 รายล่าสุดที่ลาออกเพื่อประท้วงการที่ผู้สนับสนุนนายทรัมป์บุกรุกเข้าในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธ ก่อนหน้านี้ นายแมตต์ พอตติงเกอร์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ช่วยนายทรัมป์ในเรื่องนโยบายจีน ก็ลาออกในทันทีเมื่อวันพุธ หลังเกิดเหตุความโกลาหลในรัฐสภา จากนั้น นายไรอัน ทุลลี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกิจการยุโรปและรัสเซียประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติก็ลาออกตามไป
เช่นเดียวกับสเตฟานี กริชแชม หัวหน้าคณะทำงานของเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่ง, นางซาราห์ แมทธิว รองโฆษกทำเนียบขาว และนายริคกี้ นิเซต้า เลขานุการทำเนียบขาว ก็ขอลาออกจากตำแหน่งแล้ว นอกจากนี้ เฟชบุ๊ก ซึ่งเป็นเจ้าของอินสตาแกรมที่ทรัมป์ใช้งานอยู่ ประกาศปิดบัญชีของทรัมป์จากทั้งสองแพลตฟอร์ม อย่างน้อยไปจนกว่าเขาจะพ้นจากตำแหน่ง และมีความเป็นไปได้ว่าจะปิดไปอย่างไม่มีกำหนด ส่วนทวิตเตอร์ ปิดบัญชีของทรัมป์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง
ล่าสุด ตำรวจกรุงวอชิงตันเผยว่า ไบอัน ซิกนิก เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอาการรัฐสภาเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ผู้สนับสนุนทรัมป์ จู่โจมบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุความวุ่นวายที่รัฐสภาเพิ่มเป็น 5 รายแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนการเสียชีวิตของนายซิกนิก ซึ่งเริ่มปฏิบัติหน้าที่ประจำรัฐสภามาตั้งแต่เมื่อปี 2008 ก่อนหน้านี้ ผู้ประท้วงสตรีรายหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตและมีประชาชนอีก 3 คนเสียชีวิตเพราะกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี