เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2564 สำนักข่าว Russian Today (RT) ของรัสเซีย เสนอข่าว German FM says vaccinated people should be exempt from some Covid-19 restrictions อ้างความเห็นของ ไฮโก มาส (Heiko Maas) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ที่กล่าวกับ นสพ.Bild สื่อท้องถิ่นของเยอรมนี เสนอแนะว่า ชาวเยอรมันที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แล้ว ควรมีสิทธิเสรีภาพได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เช่น ในร้านอาหารหรือโรงภาพยนตร์ หากมีแต่คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วก็จะไม่มีอันตรายใดๆ อีกต่อไป

ซึ่งข้อเสนอดังกล่าว เนื่องมาจากเห็นใจผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงมหรสพ และพิพิธภัณฑ์ ที่ถูกสั่งปิดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 และหวังว่าแนวคิดนี้จะทำให้สถานประกอบการต่างๆ ได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง แม้ในอีกมุมหนึ่ง ตนยอมรับว่าการให้สิทธิ์คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่าคนที่ยังไม่ได้ฉีด จะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันก็ตาม แต่ก็เป็นข้อเสนอที่เป็นเหตุเป็นผล เพราะผู้ได้รับวัคซีนจะไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ นั่นหมายถึงการบรรเทาความกดดันในโรงพยาบาลลงด้วย

ขณะที่ เยนส์ ชพาห์น (Jens Spahn) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี กล่าวเมื่อวันที่ 16 ม.ค.2564 ว่า บางอย่างสามารถทำได้เร็วขึ้น โดยอ้างถึงการแจกจ่ายวัคซีนที่ดำเนินการไปแล้ว 1 ล้านโดส แต่ก็ยังมีรายงานการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ในเมืองเล็กๆ ทำให้การฉีดวัคซีนชะลอตัวลง ทั้งนี้ ทางการเยอมนีใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2563 เป็นต้นมา ด้วยการสั่งปิดสถานศึกษาและกิจการต่างๆ เกือบทั้งหมดโดยให้เหลือเฉพาะเท่าที่จำเป็นจนถึงสิ้นดือน ม.ค.2564 และ ชพาห์น เปิดเผยว่า จะต่ออายุมาตรการล็อกดาวน์ออกไป

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ข้อเสนอของ มาส ทำให้เขามีความเห็นแตกต่างกับทั้งต้นสังกัดคือพรรค SPD และกับพรรคอนุรักษ์นิยม ต้นสังกัดของ อังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่พรรค SPD เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ ซึ่งรัฐบาลเยอมนีปฏิเสธที่จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ อนึ่ง ในเดือน ธ.ค.2564 ฮอร์สต์ ซีโฮเฟอร์ (Horst Seehofer) รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเยอรมนี เคยคัดค้านแนวคิดการให้สิทธิ์พิเศษกับผู้ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพราะโดยนัยแล้วไม่ต่างกับการบังคับกลายๆ ให้ฉีดวัคซีน และตนไม่ชอบการบังคับแบบนั้น