วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - วุฒิสภาสหรัฐเริ่มการพิจารณาถอดถอนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นรอบที่ 2 แล้ว หลังที่ประชุมลงมติด้วยเสียงข้างมาก สนับสนุนให้มีการเดินหน้าในกระบวนการถอดถอนทรัมป์ตามกระบวนการที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสมาชิกสหรัฐ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 56 ต่อ 44 เมื่อวันอังคาร สนับสนุนให้มีการเดินหน้าในกระบวนการถอดถอนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตามกระบวนการที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แม้ว่าคณะทนายความของนายทรัมป์พยายามจะแก้ต่างโดยอ้างว่า นายทรัมป์ไม่สามารถที่จะเข้าสู่กระบวนการถอดถอนโดยรัฐสภาได้ ก่อนที่วานนี้ (10 ก.พ.) กระบวนการหลักในพิจารณาถอดถอนจะเริ่มขึ้นในวันนี้ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการฉายคลิปภาพเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนนายทรัมป์ บุกจู่โจมเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา ขณะที่ในช่วงสองวันต่อจากนี้ คณะผู้จัดการยื่นถอดถอนจะพูดถึงรายละเอียดของการยื่นถอดถอนนายทรัมป์ ที่ถูกส่งมาจากสภาผู้แทนราษฏรทั้งหมด จากนั้น ทีมทนายความของนายทรัมป์ จะขึ้นกล่าวแก้ต่าง ก่อนที่วุฒิสภาสหรัฐจะพิจารณาว่าจะให้พยานบุคคลเข้าให้การต่อที่ประชุมวุฒิสภาหรือไม่

โดยในการลงมตินั้น วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ของนายทรัมป์ หันไปร่วมกับสมาชิกวุฒิสภาอีก 50 คนของพรรคเดโมแครตในการลงมติสนับสนุนให้ดำเนินการถอดถอนทรัมป์ และมีรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส จากเดโมเครตเป็นอีกเสียงตัดสิน ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างมีสมาชิกเท่าๆ กัน แต่ผลการลงมตินี้ แสดงให้เห็นว่า เป็นเรื่องที่เกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับคะแนนเสียงมากเพียงพอในการลงมติถอดถอนนายทรัมป์ เนื่องจากต้องได้คะแนนเสียงจากวุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกันถึง 17 เสียงจึงจะเพียงพอที่จะได้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ขณะที่วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่วุฒิสภาจะลงมติให้ถอดถอนนายทรัมป์ อย่างไรก็ดี สื่อสหรัฐรายงานว่า ทนายความของนายทรัมป์ที่พูดถึงกรณีที่เขาถูกสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐลงมติว่า นายทรัมป์สนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงให้บุกยึดอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก เนื่องจากไม่ได้กล่าวมุ่งไปที่ประเด็นการผิดหลักรัฐธรรมนูญ แต่กลับไปพูดชมเชยคณะผู้จัดการยื่นถอดถอนจากสภาผู้แทนราษฏรแทน

ทั้งนี้ ทรัมป์ ถือเป็นประธานธิบดีสหรัฐคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกพิจารณาถอดถอนถึง 2 ครั้ง โดยเมื่อปี 2020 เขาถูกพิจารณาถอดถอนมาครั้งหนึ่งแล้วจากข้อกล่าวหาใช้อำนาจในทางมิชอบ กรณีกดดันให้ยูเครนตรวจสอบบุคคล เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง แต่ก็รอดพ้นจากการลงมติของวุฒิสภา เขายังเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกพิจารณาถอดถอนหลังจากพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว