อินเดียวิกฤติหนัก
ติดไวรัสโควิดวันเดียว2.1แสนคน
ดับสังเวยกว่า1.7แสนราย
รพ.ต้องนอนเตียงละ2คน
บราซิลขาดแคลนยารักษา
ฝรั่งเศสตายทะลุ1แสนศพ
“อินเดีย” วิกฤติหนักติดเชื้อโควิดทะยานไม่หยุดพุ่งทะลุ 2 แสนคนต่อวันรพ.เตียงไม่พอ ต้องนอนเตียงละ 2 คน ส่วนบราซิล ขอความช่วยเหลือนานาชาติ ขาดแคลนยา-ออกซิเจนให้ผู้ป่วย ด้านยอดผู้เสียชีวิตในฝรั่งเศส เกิน 1 แสนรายแล้ว ขณะที่สหรัฐฯ พบฉีดวัคซีนแล้วกลับมาติดเชื้ออีก 5,800 ราย ตาย 74 ราย
เมื่อวันที่ 16 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในประเทศอินเดียในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมายังคงพุ่งสูงขึ้นทะลุ 216,850 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่สอง ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 14,287,740ราย ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอินเดียมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นหลักแสนทุกวัน จนแซงประเทศบราซิลขึ้นมารั้งตำแหน่งประเทศที่มีผู้ติดโควิดมากที่สุดเป็นอันดับ2ของโลกอีกครั้ง โดยเริ่มจากวันละกว่า 160,000ราย เป็น 180,000รายและ200,000รายในที่สุดขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันก็เพิ่มขึ้น 1,183ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 174,335 ราย และมีรายงานผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว 12,543,978ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยที่พุ่งสูงขึ้นดังกล่าวส่งผลให้เตียงในโรงพยาบาลไม่เพียงพอรองรับคนไข้ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลลอคนายัคชยาปรากาช นารายาน ในกรุงนิวเดลี หนึ่งในศูนย์รับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีเตียงมากกว่า 1,500 เตียง ก็ไม่อาจรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มเข้ามา จนคนไข้ทะลักแผนกฉุกเฉิน แล้ว
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว เผยว่า กำลังแบกภาระจนเกินจะรับไหว แม้ว่าจะทำงานเต็มขีดความสามารถ ซึ่งเตียงสำหรับผู้ป่วยวิกฤติที่เดิมมี 54 เตียง ขณะนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 300 เตียง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ซึ่งในวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา เพียงวันเดียวมีผู้ป่วยถูกส่งมารักษามากกว่า 150เคส ส่วนใหญ่อาการหนักเกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องให้ผู้ป่วยที่ไม่ใช่ญาติกันมานอนบนเตียงเดียวกัน และว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สร้างภาระให้เจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นมากพอๆ กับพฤติกรรมของผู้คน หลังจากเปิดประเทศที่ต่างการ์ดตก ไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค จนเกิดการระบาดระลอกสอง
ส่วนที่กรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายมาร์เซโล เกโรกา รมว.กระทรวงสาธารณสุขบราซิล แถลงเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ว่ากำลังประสานงานกับประเทศสเปนและอีกหลายประเทศ เพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับยาที่มีกลไกออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท เพื่อคลายเครียด ลดความวิตกกังวล และการเกร็งของกล้ามเนื้อ สำหรับใช้กับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกัน เกโรกายอมรับว่าบราซิลกำลังประสบปัญหาในการจัดหาออกซิเจนเพิ่มเติมด้วย
ในขณะที่วุฒิสภาจัดตั้งคณะกรรมาธิการเฉพาะกิจสอบสวนการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยพุ่งเป้าไปที่ประธานาธิบดีชาอีร์โบลโซนาโร ว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการบริหารจัดการวิกฤติการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19ภายในประเทศ
เวลาเดียวกัน องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (เอ็มเอสเอฟ) รายงานด้วยว่า ชาวบราซิลหลายพันคนเสียชีวิตโดยไม่จำเป็นจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และการบริหารจัดการสถานการณ์ของรัฐล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน และสถานการณ์นับจากนี้มีแต่จะเลวร้ายลงโดยปัจจุบันบราซิลมีผู้ป่วยสะสมจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 13.6 ล้านราย เพิ่มขึ้น 73,174ราย มากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และอินเดีย ส่วนสถิติสะสมผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 361,884ราย เพิ่มขึ้น 3,560ราย
ขณะที่ ประเทศฝรั่งเศส สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ว่ากระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส ได้รายงานสถิติเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงยืนยันผู้ติดเชื้อใหม่ 38,045ราย และเสียชีวิตอีก 296ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมในฝรั่งเศส เพิ่มเป็นมากกว่า 5.18 ล้านราย และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 100,073ราย นับตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว เป็นอันดับ 8 ของโลก รองจากสหรัฐฯ อินเดีย บราซิล เม็กซิโก สหราชอาณาจักร อิตาลี และรัสเซีย
ทั้งนี้ ตลอด 30 วันที่ผ่านมา ฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เฉลี่ยวันละ 300 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยสะสมตามห้องไอซียูในโรงพยาบาลทั่วประเทศ มีอย่างน้อย 5,924ราย เพิ่มขึ้น 22ราย ภายใน 24 ชั่วโมง ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอลมาครง กล่าวไว้อาลัยผู้เสียชีวิตทุกราย และให้กำลังใจว่า ชาวฝรั่งเศสทุกภาคส่วนจะร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคอันใหญ่หลวงครั้งนี้ไปด้วยกัน
ปัจจุบันฝรั่งเศสฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่ประชาชนไปแล้วมากกว่า 15 ล้านราย นับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จากจำนวนดังกล่าวเกือบ 4 ล้านราย ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว คิดเป็น 5.9% ของประชากรทั้งประเทศซึ่งมีจำนวนประมาณ 67ล้านคน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) รายงานการตรวจพบประชาชนที่รับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ติดเชื้อไวรัสฯ ประมาณ 5,800 ราย โดยสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น อ้างถึงศูนย์ฯ ว่าขณะนี้มีรายงานกรณีผู้ติดเชื้อภายหลังเข้ารับวัคซีนแล้วประมาณ 5,800 ราย ทว่าการติดเชื้อหลังจากรับวัคซีน (Breakthrough Infection) ครองสัดส่วนเพียงเล็กน้อยในกลุ่มผู้รับวัคซีนครบตามกำหนด โดยอยู่ต่ำกว่าร้อยละ1
กลุ่มผู้ติดเชื้อภายหลังรับวัคซีนทั้งหมด 5,800ราย บางรายมีอาการป่วยขั้นรุนแรงและเสียชีวิต 74 ราย ขณะที่อีก 396 รายหรือร้อยละ 7 ของผู้ติดเชื้อภายหลังรับวัคซีนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ทั้งนี้ ศูนย์ฯ เรียกร้องผู้มีสิทธิฉีดวัคซีนเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด พร้อมกับกระตุ้นเตือนผู้รับวัคซีนครบตามกำหนด ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอาทิ สวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคม
ด้านฮยอนซู โกลบอลระบุในแถลงการณ์ว่ากลุ่มบริษัทที่จับมือรวมตัวกันจะเริ่มผลิตวัคซีนตัวอย่างในเดือนสิงหาคมนี้ และจะตอบสนองความต้องการด้านการจัดหาวัคซีนจากกองทุนความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซีย (RDIF) ซึ่งกลุ่มบริษัทดังกล่าวประกอบด้วยบริษัท 3 แห่ง ได้แก่ เพรสทีจไบโอฟาร์มา ฮิวเมดิกซ์ และโบรันฟาร์มา รวมถึงบริษัทท้องถิ่นอื่นๆ ในเครือนอกจากนี้ ทั้ง 3 บริษัทจะร่วมกันสร้างโรงงานผลิตวัคซีนแห่งใหม่อีกด้วย
ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่จีแอลราฟา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเกาหลีใต้ ได้ลงนามในข้อตกลงกับกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซียเพื่อผลิตวัคซีนสปุตนิก-วี ปีละกว่า 150 ล้านโดส
ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตอินเดียประจำรัสเซียคาดว่าอินเดียจะได้รับวัคซีนสปุตนิก-วีจากรัสเซียก่อนสิ้นเดือนเมษายนนี้ หลังจากหน่วยงานที่กำกับดูแลยาของอินเดียอนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) กำลังพิจารณาอนุมัติใช้วัคซีนสปุตนิก-วี เนื่องจากหลายประเทศในทวีปยุโรปต้องการเร่งโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการจัดส่งวัคซีนที่ล่าช้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี