13 ก.ค. 2564 สำนักข่าว CNN สหรัฐอเมริกา เสนอข่าว COVAX signs deal for 550 million Chinese Covid-19 vaccines amid questions over efficacy ระบุว่า โครงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก หรือโคแว็กซ์ (COVAX) ลงนามจัดซื้อวัคซีนจากประเทศจีน 2 ยี่ห้อ แบ่งเป็นซิโนแวค 380 ล้านโดส และซิโนฟาร์ม 170 ล้านโดส โดยเบื้องต้น ผู้พัฒนาวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อ พร้อมผลิตวัคซีนได้ทันทีรวม 110 ล้านโดส 

เครือข่ายพันธมิตรโลกด้านวัคซีนและภูมิคุ้มกัน (GAVI) เจ้าภาพผู้รับผิดชอบโครงการโคแว็กซ์ ชี้แจงว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นเมื่อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์สายอินเดีย หรือเดลตา กำลังเพิ่มความเสี่ยงกับระบบสาธารณสุข ซึ่งที่ผ่านมา วัคซีนโควิด-19 สัญชาติจีน ถูกส่งออกไปยังหลายประเทศ ตามวิสัยทัศน์ของ สีจิ้นผิง (Xi Jinping) ผู้นำสูงสุดของจีน ที่ต้องการให้วัคซีนโควิด-19 เป็นสินค้าสาธารณะระดับโลก

หยินเว่ยตง (Yin Weidong) ซีอีโอของซิโนแวค กล่าวว่า ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2564 ซิโนแวคส่งออกวัคซีนไปแล้ว 1 พันล้านโดสทั่วโลก ซึ่งเป็นไปตามภารกิจที่มุ่งมั่นกำจัดโรคร้ายอันเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ ขณะที่ เซธ เบิร์กลีย์ (Seth Berkley) หัวหน้าผู้บริหารของ GAVI กล่าวว่า วัคซีนเป็นตัวอย่างกลยุทธ์ของ GAVI เพื่อให้แน่ใจว่ามีตัวเลือกในการเผชิญกับข้อจำกัด เช่น ความล่าช้าในการจัดหา 

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า โครงการโคแว็กซ์เริ่มต้นได้อย่างล่าช้ากว่ากำหนดเมื่อต้นปี 2564 เนื่องจากฐานการผลิตวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดอย่างประเทศอินเดียเผชิญสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างรุนแรง นำไปสู่ความล่าช้าในการส่งมอบวัคซีนให้โครงการด้วย แต่แผนการจัดซื้อวัคซีนสัญชาติจีนที่ถูกประกาศเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2564 เผชิญความท้าทายในด้านประสิทธิภาพโดยเฉพาะกับไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดอย่างรวดเร็ว

ที่ประเทศไทย มีการประกาศให้บุคลากรสาธารณสุขที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม ได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนยี่ห้อแอสเตราเซเนกาหรือไฟเซอร์ หลังพบบุคลากรที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม จำนวน 618 คนจากทั้งหมด 677,000 คนติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตาม จากทั้งหมด 618 คนที่ติดเชื้อ มีเพียง 2 คนที่มีอาการป่วยรุนแรง และมีเพียง 1 รายที่เสียชีวิต

เพ็ญโสม เลิศสิทธิชัย (Pensom Lertsithichai) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศของไทย ซึ่งรับหน้าที่แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ในไทยเป็นภาษาอังกฤษ กล่าวเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2564 ว่า แม้วัคซีนทั้งหมดได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการเจ็บป่วยหนักระดับต้องรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม บุคลากรมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอาจมีส่วนทำให้เกิดความล้มเหลวในการฉีดวัคซีน

ที่ประเทศสิงคโปร์ ทางการประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะไม่รวมผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข้าไปในยอดผู้ได้รับการฉีดวัคซีนของประเทศ เนื่องจากข้อมูลประสิทธิภาพยังมีไม่เพียงพอโดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ทั้งนี้ วัคซีนจีนทั้งซิโนแวคและซิโนฟาร์ม ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน ถึงกระนั้น ข้อมูล ณ ปัจจุบัน ชี้ว่าทั้ง 2 ยี่ห้อมีประสิทธิภาพต่ำกว่าวัคซีนประเภท mRNA ในการทดลองที่ประเทศบราซิล ซิโนแวคมีประสิทธิภาพเพียงร้อยละ 50 ในการป้องกันโรคตามอาการ และร้อยละ 100 ในการป้องกันอาการป่วยรุนแรง ส่วนซิโนฟาร์ม ทั้งการป้องกันโรคตามอาการและป้องกันการป่วยรุนแรงอยู่ที่ร้อยละ 79

วัคซีน mRNA เช่นไฟเซเอร์และโมเดอร์นา ที่อยู่ในโครงการโคแว็กซ์เช่นกัน มีประสิทธิภาพกว่าร้อยละ 90 ในการป้องกันโรคตามอาการ โดยโคแว็กซ์มีสัญญาผูกมัดกับผู้ผลิตวัคซีนรวม 3.8 พันล้านโดส ในจำนวนนี้ 1.9 พันล้านโดสน่าจะพร้อมส่งภายในปี 2564 ซึ่งข้อมูลของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ระบุว่า มีการจัดส่งวัคซีนไปแล้ว 107.5 ล้านโดส ให้กับ 135 ประเทศ