โรม (เอพี/รอยเตอร์ส) - ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยอมรับกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสว่า สหรัฐฯ กระทำการแบบบุ่มบ่าม กรณีการทำข้อตกลงความมั่นคง “ออคัส” ทำให้ฝรั่งเศสต้องสูญเสียสัญญาขายเรือดำน้ำให้ออสเตรเลียมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ในการพบกันก่อนการประชุมสุดยอด G20

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวยอมรับกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสว่า สิ่งที่สหรัฐฯ ทำลงไปนั้น เป็นการกระทำที่บุ่มบ่าม กรณีที่สหรัฐฯ ทำข้อตกลงความมั่นคงกับสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย จัดตั้งกลุ่มความมั่นคงใหม่ที่มีชื่อว่า “ออคัส” ขึ้นมา และกระทบถึงฝรั่งเศสต้องสูญเสียสัญญาขายเรือดำน้ำให้แก่ออสเตรเลีย มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ และตัวเขาเองเข้าใจด้วยความสัตย์จริงว่า ฝรั่งเศสได้รับการแจ้งให้ทราบนานแล้วว่า ข้อตกลงขายเรือดำน้ำให้แก่ออสเตรเลียนั้นไม่ผ่านการอนุมัติ โดยผู้นำสหรัฐฯ และฝรั่งเศสได้พบหารือกันเมื่อวันศุกร์ที่ วิลลา โบนาปาร์ต สถานทูตวาติกันของฝรั่งเศสในกรุงโรม อิตาลี ก่อนหน้าที่ผู้นำทั้งสองจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงโรม ของอิตาลี ที่จะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการพบกันครั้งแรกของผู้นำสหรัฐฯ และฝรั่งเศส หลังเกิดความขัดแย้งหนักเรื่องข้อตกลงออคัส และสัญญาซื้อขายเรือดำน้ำฝรั่งเศส ข้อตกลงดังกล่าว ทำให้ออสเตรเลียสามารถสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ และกระทบกับฝรั่งเศสโดยตรง ที่ต้องสูญเสียสัญญาขายเรือดำน้ำที่ไม่ได้ใช้พลังงานนิวเคลียร์ 12 ลำ ให้แก่ออสเตรเลีย มูลค่า 37,000 ล้านดอลลาร์ ที่ออสเตรเลียลงนามไปในปี 2016

ด้านประธานาธิบดีมาครงกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือทั้งสองฝ่ายต้องมองไปยังอนาคต และกล่าวหลังเสร็จสิ้นการพบหารือกับไบเดนว่า ความไว้วางใจก็เหมือนกับการบอกรัก การพูดว่ารักเป็นเรื่องดีแต่ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำสำคัญกว่า ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสเคยประณามข้อตกลงออสคัสว่า เป็นการ “แทงข้างหลัง” ฝรั่งเศส

สำหรับการประชุมสุดยอด G20 จะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ (30 ตุลาคม) เป็นเวลา 2 วันที่กรุงโรม โดย 20 ประเทศเศรษฐกิจสำคัญของโลกที่ประกอบด้วยสหภาพยุโรป หรือ EU และอีก19 ประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ จะหารือแบบพบกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 โดยทั้งประธานาธิบดีไบเดน และประธานาธิบดีมาครง จะเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง แต่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย จะไม่เดินทางไปประชุมด้วยตนเอง แต่จะเข้าร่วมประชุมผ่านทางออนไลน์