วันเสาร์ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
'อนามัยโลก-สหรัฐ'คาด'โอไมครอน'แม้ระบาดง่ายขึ้น แต่ไม่น่ารุนแรงกว่าเดิม

'อนามัยโลก-สหรัฐ'คาด'โอไมครอน'แม้ระบาดง่ายขึ้น แต่ไม่น่ารุนแรงกว่าเดิม

วันพุธ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 19.32 น.
Tag : โควิด โอไมครอน Omicron อนามัยโลก สหรัฐ
  •  

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ France24 ของฝรั่งเศส เสนอข่าว Top WHO, US scientists say Omicron no worse than other virus variants อ้างความเห็นผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่าน ที่ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์สายโอไมครอน ไม่น่าอันตรายไปกว่าไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์สายอื่นๆ โดย ไมค์ ไรอัน (Mike Ryan) ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินด้านสุขภาพ องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นยังไม่พบว่าโควิดสายโอไมครอนมีความรุนแรงมากขึ้น และในความเป็นจริง หากมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก็มักจะเป็นการลดความรุนแรงลง

นอกจากนี้ แม้จะสามารถระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อนๆ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณที่ชี้ว่า ไวรัสโอไมครอนสามารถหลบหลีกการป้องกันของวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งวัคซีนที่มีอยู่นั้นสามารถลดอาการป่วยหนักถึงขั้นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ แต่ก็ยอมรับว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนอาจลดลงเมื่อเผชิญกับไวรัสโอไมครอน เนื่องจากสายพันธุ์นี้พบการกลายพันธุ์ในโปรตีนหนามถึง 30 จุด ทำให้มันบุกรุกเซลล์ได้ง่ายขึ้น


ขณะที่ แอนโธนี เฟาซี (Anthony Fauci) นักระบาดวิทยาอาวุโสที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า ไวรัสสายโอไมครอนระบาดได้ง่ายกว่าสายเดลตาที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกขณะนี้อย่างชัดเจน แต่มันก็เกือบที่จะมองเห็นได้ว่าไม่ได้มีความรุนแรงไปกว่าสายเดลตา และยังมีความเห็นว่าอาจจะรุนแรงน้อยลงด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่อาจฟันธงได้ เพราะกลุ่มประชากรที่กำลังติดตามอยู่นั้นอายุยังไม่มาก ทำให้มีโอกาสน้อยที่จะต้องเข้าโรงพยาบาล ทั้งนี้ อาการป่วยรุนแรงอาจใช้เวลาพัฒนา ซึ่งเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ก็ต้องรอดูหลังจากนั้นว่าระดับความรุนแรงจะเป็นอย่างไร

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า การตรวจพบไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์สายโอไมครอน ในเดือน พ.ย. 2564 ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ได้ทำให้ชาวโลกกลับมากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดอีกครั้ง อาทิ บรรดารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) ประชุมกันเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2564 เพื่อหาวิธีรับมือร่วมกัน ขณะที่ นอร์เวย์ จ่อยกระดับมาตรการคุมเข้มเพื่อรับมือจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ภายหลังเกิดกรณีคลัสเตอร์งานเลี้ยงในกรุงออสโล แม้ผู้ร่วมงานจะฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็พบผู้ติดเชื้อนับสิบคน

ด้าน สวีเดน ประเทศเพื่อนบ้านของนอร์เวย์ ประกาศเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2564 เตรียมเปิดเผยแผนรับมือโควิด-19 ส่วน โปแลนด์ ออกมาตรการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการในศาสนสถาน ร้านอาหารและโรงมหรสพ มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2564 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังเตรียมฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุข บุคลากรด้านการศึกษา และเจ้าหน้าที่ในกองทัพ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 เป็นต้นไป

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า แม้ข้อมูลของไวรัสโอไมครอนจะเป็นไปในเชิงบวก จะทำให้ผู้คนพอยิ้มออกได้บ้าง เนื่องจากที่ผ่านมา ในภาคเศรษฐกิจกังวลผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด และการเกิดขึ้นของไวรัสกลายพันธุ์ได้เน้นย้ำว่าการต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด โควิด-19 นั้นคร่าชีวิตประชากรทั่วโลกไปแล้วกว่า 5.2 ล้านคน นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อปลายปี 2562 ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข เรียกร้องให้ผู้คนฉีดวัคซีนและเคร่งครัดมาตรการเว้นระยะห่าง เพราะเป็นวิธีต่อสู้กับโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่อีกด้านหนึ่ง ข้อกำหนดการฉีดวัคซีนได้นำไปสู่การต่อต้านในหลายประเทศ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งข้อมูลที่เผยแพร่กันแบบผิดๆ ทฤษฎีสมคบคิด ตลอดจนผลกระทบด้านเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ที่มาจากคำสั่งดังกล่าว อาทิ ที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม ประชาชนกว่า 4,000 คน ชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2564 เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลกำหนดแผนฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับบุคลากรสาธารณสุขในต้นปี 2565 โดยผู้ประท้วงตั้งคำถามว่า วัคซีนจำเป็นกับทุกคน แต่เหตุใดจึงมีแต่แผนสำหรับบุคลากรสาธารณสุข

ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.france24.com/en/live-news/20211208-top-who-us-scientists-say-omicron-no-worse-than-other-virus-variants

- 006

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'เกาหลีเหนือ\'ยกเลิกสวมหน้ากาก หลังประกาศชัยชนะเหนือโควิด 'เกาหลีเหนือ'ยกเลิกสวมหน้ากาก หลังประกาศชัยชนะเหนือโควิด
  • ประชากรฮ่องกงลดลงเป็นปีที่ 2 คาดเพราะมาตรการโควิด ประชากรฮ่องกงลดลงเป็นปีที่ 2 คาดเพราะมาตรการโควิด
  • เกาะติด! รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทั่วโลก เกาะติด! รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทั่วโลก
  • ทุบสถิติ! \'ญี่ปุ่น\'ป่วยโควิด-19 วันเดียวทะลุ 250,000 ราย ทุบสถิติ! 'ญี่ปุ่น'ป่วยโควิด-19 วันเดียวทะลุ 250,000 ราย
  • \'คิมจองอึน\'ประกาศเกาหลีเหนือชนะโควิดแล้ว พร้อมสั่งผ่อนคลายมาตรการ 'คิมจองอึน'ประกาศเกาหลีเหนือชนะโควิดแล้ว พร้อมสั่งผ่อนคลายมาตรการ
  • เกาะติด! รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทั่วโลก เกาะติด! รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทั่วโลก
  •  

Breaking News

ร่วมส่งดวงวิญญาณ หนุ่มนัดเพื่อนฉลองวันเกิด เหยื่อไฟไหม้เม้าเทน บี ผับ สัตหีบ

หนุ่มรง.หวิดดับ! เมาจอดรถนอนริมคลอง จนไหลตกน้ำ โชคดีคนหาปลาช่วยชีวิต

'อันวาร์'ทิ้งบอมบ์ปชป.อีกแล้ว ปูด'บิ๊กเนม'จ่อลา-เลือดรอไหลออกอีกเพียบ

ครอบครัวนำร่าง'น้องมาย' เหยื่อผับมรณะ ประกอบพิธีทางศาสนา เผยต้องยืมเงินญาติจ่ายค่ารักษาเอง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved