คอมเมนต์สนั่น ผู้ปกครองโพสต์ลูกชายกินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก หมอดังรีบออกมาเบรกดราม่า

คอมเมนต์สนั่น ผู้ปกครองโพสต์ลูกชายกินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก หมอดังรีบออกมาเบรกดราม่า

วันจันทร์ ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 10.59 น.

1 ธันวาคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปในกลุ่ม 'พวกเราคือผู้บริโภค' เตือนอุทาหรณ์ให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ระมัดระวัง หลังจากที่ได้ให้ลูกชายกิน 'สับปะรด' ลิ้นของเด็กเกิดเป็นแผลมีเลือดซึมออกมา พร้อมข้อความระบุว่า "ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์เราซื้อมาทั้งหมด 4 ลูกปอกให้เองตาไม่เหลือสักนิดแต่อย่าปล่อยให้เด็กกินเองหลายชิ้นแต่ตั้งแต่เกิดมาจะ 60 แล้วก็ยังไม่เคยเห็นเด็กคนไหนกินแล้วเป็นอย่างนี้ (รอลุ้นต้องพาไป.รพไหม) "

โดยหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความนี้ออกไปนั้น ก็มีแฟนเพจเข้าไปคอมเมนต์ให้ความรู้กันเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น อยู่ที่สายพันธุ์ด้วยรึเปล่านะ นี่กินภูแลไม่คันลิ้นแต่ถ้าเป็นลูกใหญ่จะเคือง แต่ว่าพอกินสัปปะรดทีไร กินอะไรอย่างอื่นตามไม่อร่อยเลย , ในสับปะรดมันมีเอ็มไซน์ที่เป็นผลึกเป็นแท่งแก้วแบบเข็มถ้าคนแข็งแร็งกินก็จะแค่มีอาการลิ้นแตกแต่ถ้าเด็กเนื้ออ่อนๆกินไปก็อาจจะเป็นแบบนี้ได้แต่ถ้าพรมน้ำเกลือหรือทำสุกปรุงอาหารเข็มแหลมๆ ก็จะอ่อนนุ่มลงค่ะ เป็นต้น 


ต่อมาทาง 'หมอม็อด หมอเด็กขอเล่า' ได้ออกมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า  กินสับปะรดแล้ว “ลิ้นเลือดออก – ปากแสบ” เกิดจากอะไร? ต้องดูแลยังไง?เมื่อคืนมีคนโพสต์ในกลุ่มพวกเราคือผู้บริโภคเล่าว่า “เด็กกินสับปะรดเยอะ แล้วลิ้นมีเลือดออก”หลายคนตกใจ คิดว่าอาจ “แพ้สับปะรด”บางคนก็บอกว่า… เกิดมาเพิ่งเคยเห็นโพสต์นี้จะเล่าให้ฟังครับ ว่าเกิดจากอะไร? และควรดูแลยังไง?

1. กินสับปะรดแล้ว “ลิ้นเลือดออก” ได้ยังไง? ไม่ได้เกิดจากการแพ้สัปปะรดนะครับแต่เกิดจาก 2 กลไกหลักที่ทำให้ผิวลิ้นถลอกจนมีเลือดซึมเล็กๆ ออกมาได้

กลไกที่ 1: เอนไซม์ bromelain

• เป็นเอนไซม์ย่อยโปรตีนที่อยู่ในสับปะรด

• พอเรากินเข้าไป → มันสามารถย่อย “โปรตีนบนเยื่อบุลิ้น” ได้ด้วย

• เซลล์ผิวบางๆ ที่ลิ้นก็เลยถูกกัด → เหมือนแผลเล็กๆ

• ยิ่งกินเยอะ กินนาน → ยิ่งกัดมาก → ยิ่งมีแผลมาก

กลไกที่ 2: ความเป็นกรดของสับปะรด

• สับปะรดมีความเป็นกรดสูง (pH ประมาณ 3–4)

• ผิวลิ้นที่โดนเอนไซม์กัดอยู่แล้ว → ยิ่งไวต่อกรด → แสบ บวม

บางคนถึงขั้นมีเลือดซึมออกมาได้ในเด็กลิ้นจะบอบบางกว่าผู้ใหญ่ การเลือดออกจึงเกิดได้ง่ายกว่านั่นเอง

2. ส่วนใหญ่จะ “ไม่ถึงขั้นเลือดออก” แต่แสบเพดานปาก ก็เกิดจากกลไกเดียวกันนี่แหละ

• ไม่ใช่แค่ลิ้น → เพดานปาก แก้มด้านใน เหงือก ก็ระคายเคืองได้

• โดยเฉพาะถ้ามีแผลอยู่ก่อน (เช่น แปรงฟันแรง เคี้ยวปากตัวเอง) → ก็จะยิ่งรู้สึกแสบมากขึ้น

3. ถ้าลิ้นเลือดออกแล้ว… ทำยังไงดี? ไม่ต้องตกใจครับ ถ้าเลือดออกแค่เล็กน้อยมักเป็นแผลตื้นๆ และหายได้เอง

ล้างปากด้วยน้ำเปล่า เพื่อล้างเอนไซม์และกรด

งดกินสับปะรดสักพัก ให้แผลได้พักตัว

เลี่ยงอาหารร้อนจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด

ดื่มน้ำเยอะขึ้น ให้เยื่อบุในปากชุ่มชื้น

ถ้ามีเลือดซึม → ใช้ผ้าก๊อซสะอาดชุบน้ำเกลือกดเบาๆ ได้

ถ้าเลือดไม่หยุด บวมเยอะ หรือมีอาการผิดปกติ → ควรพาไปพบแพทย์ครับ

สรุปสั้นๆ

สับปะรดมีทั้งเอนไซม์ย่อยโปรตีนและกรดสูง

ถ้ากินเยอะ กินบ่อย หรือกินผลที่ยังไม่สุกดี → เสี่ยงลิ้นถลอกและเลือดซึมได้

บางคนอาจแค่ แสบปาก ไม่มีเลือด ก็เกิดจากกลไกเดียวกัน

โดยทั่วไป ไม่อันตรายและหายเองได้

ขอบคุณข้อมูล : พวกเราคือผู้บริโภค , หมอม็อด หมอเด็กขอเล่า

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top