พบที่ประเทศฝรั่งเศส
แต่ควบคุมไว้ได้แล้ว
คาดถูกโอมิครอนกลืน
เมื่อวันที่ 3 มกราคม หนังสือพิมพ์ Le Telegramme ของประเทศฝรั่งเศส รายงานว่า มีการตรวจพบไวรัสโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ มีชื่อว่า B.1640.1 ที่คลัสเตอร์เล็กๆ ในฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อ 24 คนรวมเด็ก 18 คน ที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในภูมิภาคหรือแคว้นบริตทานี (Brittany) ทางตะวันตกฉียงเหนือของฝรั่งเศส เชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศแคเมอรูนจากผู้ป่วยรายแรก ที่เดินทางกลับมาอาศัยอยู่ในเมืองน็องต์ และไปแพร่เชื้อยังครอบครัวหนึ่งในเมืองบันนาเล็ค ก่อนที่เด็กๆ จะเอามาแพร่ที่โรงเรียน แต่สถานการณ์ขณะนี้อยู่ภายใต้การควบคุมและไม่พบผู้ป่วยมาตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค 2564
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้มีการกลายพันธุ์ทั้งหมด 46 ตำแหน่ง และมีส่วนที่ขาดหายไปของเบส (deletion) 37 ตำแหน่ง ส่งผลให้มีกรดอะมิโนเปลี่ยนไปจากเดิม 30 ตำแหน่ง และหายไป 12 ตำแหน่ง แต่หากพิจารณาเฉพาะกรดอะมิโนบนโปรตีนหนาม พบว่ามี 14 ตำแหน่งที่เปลี่ยน และ 9 ตำแหน่งที่หายไป โดยตำแหน่งสำคัญที่พบรวมไปถึง N501Y และ E484K ด้วย ซึ่งน่าจะมีผลเรื่องการหนีภูมิคุ้มกันได้คล้ายกับสายพันธุ์โอมิครอน แต่ข่าวดีคือไวรัสนี้น่าจะถูกกลืนด้วยโอมิครอน เพราะฝรั่งเศสพบมาเกือบ 2 เดือนแล้วแต่ยังไม่มีการระบาดในประเทศเพิ่มขึ้นเร็ว
ฝรั่งเศสลดเวลากักตัวเหลือ5-7วัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโอลิวิเยร์ เวรอน รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศส กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป ฝรั่งเศสจะเริ่มใช้มาตรการลดเวลากักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วจาก 10 วัน ลงมาอยู่ที่ 5-7 วัน ขณะที่ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนและมีผลตรวจเป็นบวก จะต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วัน และออกจากการกักตัวใน 7 วันหลังจากที่มีผลการตรวจโควิดเป็นลบ
รายงานข่าวระบุว่า ส่วนกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อหากได้รับวัคซีนครบแล้วไม่ต้องถูกกักตัว ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงมาตรการเป็นไปตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในฝรั่งเศส ควบคู่กับความสมดุลของเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ จากข้อมูลที่มีอยู่ยังพบว่าโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนใช้เวลาฟักตัวเร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า ส่งผลให้ระยะเวลาการกักตัวลดลง
อิสราเอลพบติดหวัดใหญ่บวกโควิด
ขณะที่ประเทศอิสราเอล มีรายงานจาก รพ.เบลินสัน ในเมืองเปตะห์ ติกวา ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัส 2 ชนิดพร้อมกันคือโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล โดยเป็นหญิงตั้งครรภ์อายุ 30 ปีซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หญิงรายนี้ได้รับการตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่และเชื้อโควิดในทันทีที่เธอมาถึงโรงพยาบาล และผลตรวจออกมาว่าเป็นบวกทั้งคู่ และเมื่อตรวจซ้ำอีกครั้งผลก็ออกมาเช่นเดิม ซึ่งเชื้อไวรัสทั้งคู่นี้เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการหายใจลำบาก และเป็นเชื้อที่โจมตีระบบทางเดินหายใจส่วนบน แต่คาดว่าน่าจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ภายในวันพฤหัสบดีหน้า
เชื่อมีมานานแล้วแต่ไม่เคยถูกวินิจฉัย
ล่าสุด อิสราเอลพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมากถึงเกือบ 2,000 ราย จนเกิดความกังวลว่าอาจเกิด “ทวินเดมิค” หรือการแพร่ระบาดคู่กันระหว่างไข้หวัดและโควิด-19 ที่อาจส่งผลให้เกิดความแออัดในระบบสาธารณสุขของประเทศอีกครั้ง ด้านผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจมีผู้ติดเชื้อ 2 ชนิดพร้อมกัน หรือที่เรียกกันว่า “ฟลูโรน่า” มาแล้วก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างชัดเจน โดยแพทย์ระบุว่าอาการส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อ “ฟลูโรน่า” นั้น มีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สหรัฐฯหวั่นโอมิครอนทำป่วยล้นรพ.
ดร.แอนโทนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐอเมริกา ออกมาเตือนว่า แม้จะมีหลักฐานว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน จะมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่โอกาสที่ผู้ป่วยจะล้นโรงพยาบาลก็ยังมีอยู่สูง เนื่องจากแพร่กระจายได้รวดเร็วมากกว่า โดยตัวเลขจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือ ซีดีซี. ระบุว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในสหรัฐขณะนี้ เป็นสายพันธุ์โอมิครอนถึงร้อยละ 58.6
รัฐมนตรีกลาโหมมะกันติดโควิด
ขณะที่ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตนมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก โดยมีอาการป่วยเล็กน้อย ซึ่งตนได้แจ้งเตือนไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิดแล้วทั้งเจ้าหน้าที่ในกระทรวงฯ รวมถึง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งนี้ ออสติน ในวัย 68 ปี ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสและได้ฉีดโดสกระตุ้นแล้ว ยังกล่าวด้วยว่าวัคซีนทำให้อาการป่วยเมื่อติดเชื้อไม่รุนแรง จึงยืนยันว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ และจะยังเป็นข้อบังคับทางการแพทย์ในกองทัพสหรัฐฯ ต่อไป อีกทั้งเรียกร้องให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นด้วยหากสามารถทำได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี