"IMF"เตือนประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เตรียมรับมือความปั่นป่วนจากโอมิครอน-แบงก์ชาติมะกันขึ้นดอกเบี้ย
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 สำนักข่าว ABS-CBN ของฟิลิปปินส์ เสนอข่าว IMF warns developing countries of 'economic turbulence' ระบุว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจฉบับล่าสุดในวันที่ 25 ม.ค. 2565 เตือนประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ว่าสุ่มเสี่ยงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (FED) เตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประกอบการเศรษฐกิจโลกชะลอการเติบโตลงจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์สายโอมิครอน
โดยในเบื้องต้น IMF มองว่า สำหรับขณะนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากการทำลายล้างของโรคระบาดควรดำเนินต่อไปในปีนี้และปีหน้า แต่ สเตฟาน แดนนิงเกอร์ (Stephan Danninger) , เคนเน็ธ คัง (Kenneth Kang) และ เฮเลน ปัวร์สัน (Helene Poirson) 3 นักเศรษฐศาสตร์ประจำ IMF ได้กล่าวว่า ความเสี่ยงต่อการเติบโตยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดที่กลับมาลุกลามอย่างดื้อรั้น
ไวรัสกลายพันธุ์สายโอมิครอนระบาดได้เร็วราวกับไฟลามทุ่ง มันกระจายไปทั่วโลกตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค.2564 ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูดขึ้นเป็นประวัติการณ์ในการระบาดระลอกล่าสุด และแม้จะมีสัญญาณชี้ว่าโอมิครอนติดเชื้อแล้วมีอาการป่วยรุนแรงน้อยกว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้า แต่หลายประเทศก็กลับมาใช้มาตรการด้านสุขภาพอย่างเข้มงวดอีกครั้งซึ่งขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจ
ด้วยความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับมาตรการของ FED ที่เร็วขึ้น บรรดาประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ควรเตรียมพร้อมสำหรับความปั่นป่วนที่อาจเกิดขึ้น เพราะประเทศเหล่านั้นมีปัจจัยทั้งภาวะเงินเฟ้อและหนี้สาธารณะที่สูงเกิดขึ้น FED ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลักอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าที่วางแผนไว้ เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงในสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อครัวเรือนและการบริโภคของชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นหมายถึงต้นทุนทางการเงินสำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บางประเทศที่มีหนี้รูปสกุลเงินเหรียญสหรัฐ หรือดอลลาร์จะเพิ่มขึ้น ประเทศเหล่านี้ล้าหลังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จึงไม่อาจแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้ IMF เตือนว่า ในขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมเงินดอลลาร์ยังคงต่ำสำหรับหลายคน ความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในประเทศและเงินทุนจากต่างประเทศที่มีเสถียรภาพ ทำให้มีประเทศตลาดเกิดใหม่หลายแห่งในปีที่แล้ว รวมทั้งบราซิล รัสเซียและแอฟริกาใต้ ที่เริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED อย่างรวดเร็วอาจทำให้ตลาดการเงินสั่นสะเทือน และทำให้เกิดสภาวะทางเงินที่เข้มงวดขึ้นในระดับโลก ความเสี่ยงคืออุปสงค์และการค้าในสหรัฐฯ จะชะลอตัวลง เช่นเดียวกับเงินทุนหมุนเวียนและค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค้าในตลาดของประเทศเกิดใหม่ ซึ่ง IMF แนะนำว่า ให้ปรับตัวตามสถานการณ์และความเปราะบางของแต่ละประเทศ และธนาคารกลางที่กำลังขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อควรมีส่วนร่วมในการสื่อสารที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงความจำเป็นในเสถียรภาพด้านราคาได้ดีขึ้น
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี