14 ม.ค.65 แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบัคกิงแฮมระบุว่า "ภายใต้การตกลงและเห็นชอบจากสมเด็จพระราชินี ตำแหน่งทางกองทัพและหน่วยงานในพระอุปถัมภ์ของดยุคแห่งยอร์ก จะถูกโอนกลับคืนสู่สมเด็จพระราชินี ดยุคแห่งยอร์กจะยังไม่ปฏิบัติกรณียกิจใดๆ และต่อสู้คดีนี้ในฐานะสามัญชน"

คำแถลงมีขึ้นหลังจากพิพากษาในนิวยอร์กเมื่อวันพุธ (12 ม.ค.) ตัดสินไม่รับฟ้องกรณีที่เจ้าชายพระชนมายุ 61 พรรษา ขอให้ศาลสั่งตีตกคดีที่พระองค์ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ สาวอเมริกันชื่อ เวอร์จิเนีย จูฟเฟร ตอนที่เธออายุ 17 ปี

จูฟเฟร กล่าวหาว่า เธอตกเป็นเหยื่อการค้าประเวณีของมหาเศรษฐี เจฟฟรีย์ เอปสตีน ผู้ทำตัวเป็นนายหน้าจัดหาเด็กสาวให้ไปบริการกับคนดัง และเธอถูกเจ้าชายแอนดรูว์ล่วงละเมิด

เจ้าชายแอนดรูว์ รัชทายาทลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ถูกบีบให้ต้องถอยห่างจากการปฏิบัติกรณียกิจในฐานะเชื้อพระวงศ์ในช่วงปลายปี 2019 หลังการสัมภาษณ์ทีวีครั้งหายนะ ที่เจ้าชายพยายามปกป้องความเชื่อมโยงระหว่างพระองค์กับเอปสตรีน

ความขุ่นเคืองของสาธารณชนในช่วงเวลานั้น กระตุ้นให้องค์กรทางกุศลและสมาคมต่างๆ ปลีกตัวออกห่างจากพระองค์ และนับตั้งแต่นั้นพระองค์ได้ออกมาปฏิเสธคำกล่าวหาของ จูฟเฟร ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบัคกิงแฮมมีขึ้นหลังจากกำลังพลจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือ กองทัพอากาศ และทหารผ่านศึก ร่วมลงนามในจดหมายส่งถึงสมเด็จพระราชินี เพื่อขอให้ถอดยศทางทหารทั้ง 8 ของเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งรวมถึงตำแหน่ง พันเอกแห่งกองทหาราบ เกรเนเดียร์ การ์ด (Grenadier Guards) ซึ่งเป็นหนึ่งในตำแหน่งอาวุโสที่สุดของกองทหารราบแห่งอังกฤษ

ปกติแล้วสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์อังกฤษจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกิตติมศักดิ์ของหน่วยทหารต่างๆ ภายใต้ความเห็นชอบของสมเด็จพระราชินี

.-011