15 มกราคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันศุกร์ (14 ม.ค.) สถาบันโรแบร์ตค็อก (RKI) ด้านโรคติดเชื้อของเยอรมนี รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายวันเพิ่มเกิน 90,000 รายครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดใหญ่ โดยอยู่ที่ 92,223 ราย ซึ่งถือเป็นยอดผู้ป่วยใหม่รายวันสูงเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว

สถาบันฯ ระบุว่าอัตราการอุบัติของโรคโควิด-19 ในรอบ 7 วันของเยอรมนีเพิ่มแตะ 470.6 รายต่อประชาชน 100,000 คน โดยเยอรมนีเผชิญการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 5 แล้ว และมีเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน เป็นสายพันธุ์หลัก หลังจากจำนวนผู้ป่วยลดลงชั่วคราวเมื่อช่วงสิ้นปีก่อน

สถาบันฯ กล่าวว่านี่เป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน มีสัดส่วนมากกว่าสายพันธุ์อื่น โดยคิดเป็นร้อยละ 73 ในช่วงสัปดาห์แรกของปีนี้ และสัดส่วนดังกล่าวยังคงเพื่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันสถาบันฯ และสมาคมสหวิทยาการเพื่อการดูแลผู้ป่วยวิกฤตและเวชศาสตร์ฉุกเฉินเยอรมัน (DIVI) ระบุว่าผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ไม่ได้รับวัคซีน ครองสัดส่วนผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ถูกส่งเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลทั้งหมด

ทั้งนี้ ประชากรของเยอรมนีร้อยละ 72.5 ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) และมีการฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นอย่างน้อย 38.2 ล้านโดส ทว่ายังคงมีประชาชนไม่ได้รับวัคซีนอีก 20.9 ล้านคน

เมื่อวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) คาร์ล เลาเทอร์บัค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี เน้นย้ำการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศ โดยชี้ว่าเป็น “ทางออกจากการระบาดใหญ่ที่ปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด”