เปรูเรียกร้องโรงกลั่นสเปนชดใช้
ลิมา - ทางการเปรูออกมาเรียกร้องให้เร็ปโซล บริษัทพลังงานสัญชาติสเปน เจ้าของโรงกลั่นน้ำมันยักษ์ใหญ่ “ลา แปมปิลลา” ชดใช้ต่อความเสียหายใหญ่หลวงเป็นประวัติการณ์ที่เกิดขึ้นกับระบบนิเวศทางทะเลของเปรูหลังจากน้ำมันดิบประมาณ 6,000 บาร์เรล รั่วไหลจากโรงกลั่นลงทะเล ในช่วงที่เกิดคลื่นยักษ์ซัดเข้าสู่ชายฝั่งเปรู หลังจากภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดที่ตองกาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนน้ำมันดิบปริมาณมหาศาลรั่วไหลลงสู่ชายฝั่งทะเล บริเวณเขตอนุรักษ์ 2 แห่งที่มีระบบนิเวศทางทะเลอุดมสมบูรณ์คราบน้ำมันลอยบนผิวน้ำเป็นระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ส่งผลให้มีนกทะเลและสัตว์น้ำตายไปเป็นจำนวนมาก โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปรูระบุว่าการรั่วไหลของน้ำมันลงสู่ทะเล ส่งผลกระทบต่อครอบครัวชาวประมงหลายร้อยครอบครัว บริษัทเร็ปโซลต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนโดยโรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้มีการผลิตน้ำมันกว่า 117,000 บาร์เรลต่อวันแต่ไม่มีแผนสำรองกรณีเกิดน้ำมันรั่วไหลลงทะเล ด้านสำนักงานอัยการสูงสุดของเปรูบอกว่า ได้เริ่มการสืบสวนสอบสวนกรณีบริษัทเร็ปโซลกระทำการผิดพลาดก่อให้เกิดการปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อมของเปรู และอาจเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายราว 34.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,120 ล้านบาท)
ชาวต่างชาติอาจย้ายออกจากฮ่องกง
ฮ่องกง - หอการค้าอเมริกันในฮ่องกงเผยผลสำรวจบรรยากาศการทำธุรกิจประจำปี 2565 ที่ได้จากการสอบถามบุคคลและตัวแทนบริษัทรวมทั้งหมด 262 ราย ในจำนวนนี้หลายรายย้ายออกจากฮ่องกงไปแล้วว่า ผู้ตอบที่เป็นบุคคลร้อยละ 44 อาจย้ายออกจากฮ่องกงเพราะมาตรการเข้มงวดพรมแดนและการใช้ชีวิต ขณะที่บริษัทร้อยละ 26 กำลังพิจารณาย้ายสำนักงานผลสำรวจพบว่า มาตรการจำกัดโควิดของฮ่องกงทำให้ธุรกิจสะดุดอย่างหนักการลงทุนใหม่ๆ ถูกชะลอ และสร้างปัญหาในการจ้างงานคนเก่ง อย่างไรก็ดีธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงมองว่า ฮ่องกงมีอนาคตสดใส โดยเฉพาะภาคบริการการเงิน ผู้ตอบ 1 ใน 3 เห็นว่า ช่วง 3 ปีมานี้ฮ่องกงมีความได้เปรียบในระดับภูมิภาคในเรื่องการบริหารความมั่งคั่ง ผู้ตอบหลายรายมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากการที่บริษัทอื่นย้ายออกไป ส่วนประเด็นที่สร้างความกังวล ได้แก่ ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนที่ตึงเครียด ค่าครองชีพในฮ่องกงสูง การปกครองด้วยหลักนิติธรรมที่แย่ลง และการที่รัฐบาลฮ่องกงใกล้ชิดกับรัฐบาลจีนมากยิ่งขึ้น
อยู่กันนานหมั้นเสียเลย
ปักกิ่ง - คู่รักชาวจีนประกาศหมั้นหมายหลังหญิงชาวจีนต้องติดอยู่ที่บ้านคู่นัดบอดชายเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากทางการจีนประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์กะทันหัน โดย จ้าว เสี่ยวชิง หญิงสาวชาวจีน วัย 28 ปี จากมณฑลส่านซี ทางเหนือของจีน เผยกับสื่อท้องถิ่นว่า เธอคิดว่าการไปนัดบอดกับชายหนุ่มที่เมืองเซียนหยางในช่วงกลางเดือนธันวาคมปีก่อนจะใช้เวลาเพียง 1 วัน เพื่อทำความรู้จักครอบครัวของฝ่ายชายเท่านั้น และไม่คิดว่าจะต้องเอ่ยปากขอค้างคืนที่นั่น ในขณะที่เธอเพิ่งพบกับคู่นัดบอดเป็นครั้งที่สองเท่านั้น หลังทางการท้องถิ่นเมืองเซียนหยางประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์กะทันหัน เนื่องจากพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้น จนทำให้จ้าวไม่สามารถเดินทางกลับบ้านของเธอได้ และต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านฝ่ายชายเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จนครอบครัวของฝ่ายชายได้ขอร้องให้ทั้งคู่แต่งงานกันหลังใช้เวลาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน 1 สัปดาห์ในช่วงล็อกดาวน์ อย่างไรก็ดีแม้ทั้งคู่จะมีจุดเริ่มต้นความรักในครั้งนี้อย่างติดขัด แต่ก็เริ่มมีใจให้กันมากขึ้นจนตัดสินใจว่าจะหมั้นหมายกันในที่สุด ทั้งนี้ เรื่องราวของจ้าวได้รับเสียงชื่นชมเกี่ยวกับความรักที่สวยงามในโลกออนไลน์ แต่ก็มีบางส่วนที่เตือนว่าการตัดสินใจหมั้นหมายของทั้งคู่นั้นรวดเร็วเกินไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี