จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19ในสิงคโปร์ พุ่งสูงเป็น 3 เท่าในช่วงเวลาวันเดียว โดยนับจนถึงเมื่อเวลาเที่ยงวันของวันศุกร์ พบยอดผู้ติดเชื้อไวรัสแล้ว 13,046 รายโดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในวันพฤหัสบดีอยู่ที่ 4,087 ราย
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ แจ้งทางเว็บไซต์ รายงานสถานการณ์โควิดประจำวันในวันนี้ว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเมื่อวันศุกร์นั้น 10,312 ราย เป็นการตรวจพบด้วยการใช้ชุดตรวจหาเชื้อแบบเร่งด่วน หรือ เอทีเค ส่วนอีก 2,734 ราย ตรวจพบด้วยการใช้วิธีปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส หรือ พีซีอาร์ สำหรับผู้ติดเชื้ออีก 162 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเมื่อวานนี้ ยังมี่ผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 6 ราย ในรอบ 28 วัน สิงคโปร์พบผู้ติดโควิด-19 จำนวน 85,357 ราย แต่ร้อยละ 99.7 เป็นผู้ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย สิงคโปร์ฉีดวัคซีนให้ประชากรไปครบ 2 เข็มแล้วถึงร้อยละ 89 ในขณะที่ร้อยละ 59 ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สิงคโปร์เตือนว่า ยอดผู้ติดโควิด-19 รายวันอาจจะเพิ่มสูงถึง 15,000 ราย เรื่องจากมีเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน ที่ติดต่อได้ง่าย เป็นตัวผลักดัน
ด้านจำนวนสะสมของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อวานนี้ทะลุเกิน 900,000 รายแล้ว แม้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจะเริ่มชะลอตัวลงแล้วก็ตาม
ตัวเลขดังกล่าว ซึ่งรวมรวมโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส แสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 นับตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม เพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 ราย ซึ่งตรงกับช่วงเดียวกันที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นและมีผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน ที่ติดต่อกันได้ง่าย เป็นปัจจัยผลักดันสำคัญ หลักฐานในเบื้องต้นชี้ว่า โอไมครอน แม้ว่าจะติดต่อกันได้ง่าย แต่ทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ก่อนหน้านี้ เช่น เดลตา แต่จำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนทำให้มีผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นและทำให้ระบบการรักษาพยาบาลของสหรัฐเกิดความตึงตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า คนไข้จากโอไมครอนเป็นจำนวนมากที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนและผู้ที่มีโรคประจำตัว ข้อมูลยังชี้ว่า สหรัฐจะได้รับผลกระทบจากโอไมครอนมากกว่าประเทศอื่น ๆ ที่มีประชากรโดยรวมที่เป็นคนวัยหนุ่มสาว เช่นในแอฟริกา
ส่วน กระทรวงสาธารณสุขกลางรายงานว่าอินเดียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่ม 1,072 ราย นับตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดี ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 500,055 ราย ส่งผลให้อินเดียเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุดเป็นอันดับสี่ของโลก โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมาในช่วงที่เชื้อเดลตายังคงระบาดหนัก อินเดียมีผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 อยู่ที่กว่า 400,000 ราย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยอดผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง 98,352 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 1,435,569 ราย ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่หายดีและออกจากโรงพยาบาลของอินเดียเพิ่มขึ้น 246,674 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 40,017,088 ราย โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 41,952,712 ราย สูงสุดเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชินเมย์ ทัมเบแห่งสถาบันการจัดการอินเดีย ระบุว่าผลการศึกษาของทางสถาบันที่มีการตีพิมพ์ในวารสารไซเอ็นซ์ ระบุว่า คาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดียจนถึงกลางปี 2021 ที่ผ่านมาสูงถึงราว 3 ล้านคนแล้ว โดยอ้างอิงจากฐานข้อมูลที่แตกต่างกันถึง 3 แห่ง
ขณะที่รัฐบาลอินเดียเก็บข้อมูลการเสียชีวิตจากโควิด-19 ด้วยข้อมูลที่รวบรวมโดยรัฐบาลท้องถิ่น แต่ก็มักจะพบความล่าช้าของการแจ้งข้อมูลการตาย รวมทั้งยังเกิดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลอีกจำนวนมาก โดยการระบาดของเชื้อโอมิครอนในระลอกนี้นับเป็นการระบาดระลอกที่ 3 ของอินเดียแล้ว แต่รัฐบาลอินเดียกลับผ่อนคลายการตรวจหาเชื้อ และยังสั่งให้รัฐบาลท้องถิ่นตรวจเชื้อเฉพาะกับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรงเท่านั้น โดยมุ่งเน้นเดินหน้าฉีดวัคซีนให้เพิ่มขึ้นแทน ซึ่งการตรวจคัดกรองที่น้อยลงก็ส่งผลให้เกิดการระบาดกระจายวงกว้างโดยไม่รู้ตัว
นายจอห์น ทอรี่ นายกเทศมนตรีนครโตรอนโตของแคนาดา แถลงเมื่อวานนี้ว่าหากใครวางแผนที่จะเดินทางมายังนครโตรอนโต เพื่อร่วมกับคนขับรถบรรทุกที่กำลังประท้วงมาตรการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขอเตือนว่าอาจเป็นการก่อความไม่สงบ และไม่อาจยอมรับได้ ดังนั้น จึงเตือนให้เปลี่ยนใจและอยู่กับบ้าน และย้ำว่าแม้ตนจะไม่เห็นด้วยกับการประท้วงวัคซีน แต่ยอมรับการประท้วงโดยสงบและสันติ
ขณะที่นายเจมส์ เรเมอร์ หัวหน้าตำรวจโตรอนโต กล่าวว่า เตรียมปิดถนนในย่านใจกลางเมือง และจะยอมให้รถพยาบาล และผู้ที่มีความจำเป็นผ่านได้เท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี