21 เม.ย.65 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินเยนของญี่ปุ่นร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 20 ปี เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ โดยเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงกรอบบน 127 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร (19 เม.ย.) ท่ามกลางความกังวลจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นแตกต่างกันมากขึ้น

เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวที่ 127.72-77 เยน เมื่อช่วงเที่ยงวันอังคาร (19 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เทียบกับ 126.93-127.03 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 126.63-65 เยนที่ตลาดโตเกียว เมื่อ 17.00 น. ของวันจันทร์ (18 เม.ย.)

ส่วนเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.0767-0771 ดอลลาร์สหรัฐ  และ 137.52-62 เยน เทียบกับ 1.0776-0786 ดอลลาร์สหรัฐ และ 136.87-97 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.0790-0792 ดอลลาร์สหรัฐ  และ 136.64-68 เยน ระหว่างการซื้อขายช่วงเกือบเย็นที่ตลาดโตเกียว

เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่กรอบบน 127 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2002 เนื่องด้วยมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดชั่วข้ามคืน นับตั้งแต่ธันวาคม 2018

เหล่านักยุทธศาสตร์การตลาดกล่าวว่าบรรดานักลงทุนพากันซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์ ออกมาเผยว่าธนาคารฯ อาจต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นร้อยละ 3.5 ภายในสิ้นปีนี้เพื่อรับมือภาวะเงินเฟ้อ

ยูจิ ไซโตะ หัวหน้าฝ่ายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธนาคารเครดิต อะกริคอล คอร์ปอเรต แอนด์ อินเวสเมนต์ แบงก์ในโตเกียว (Credit Agricole Corporate & Investment Bank) กล่าวว่า “คำพูดของบูลลาร์ดตอกย้ำว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจดำเนินมาตรการเข้มงวดมากขึ้นในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ”

เมื่อวันจันทร์ (18 เม.ย.) ฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุระหว่างการประชุมรัฐสภาว่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐไม่นานนี้ อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อแนวโน้มรายได้ของบริษัทญี่ปุ่น และเศรษฐกิจของประเทศที่เผชิญปัญหาอยู่แล้ว

คูโรดะกล่าวว่าสกุลเงินต่างๆ ควรเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพเพื่อสะท้อนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ขณะประเมินความผันผวนล่าสุดในตลาดสกุลเงิน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มสูงว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอันเปราะบางของญี่ปุ่น

ขณะเดียวกันชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น กล่าวในการประชุมว่าคำว่า “ย่ำแย่” อาจสามารถอธิบายสถานการณ์เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างกะทันหันได้อย่างเหมาะสม

ปกติแล้วบริษัทผู้ส่งออกรายใหญ่ของญี่ปุ่นจะยินดีหากเงินเยนอ่อนค่าลง เนื่องจากช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันด้านราคาในตลาดต่างประเทศ และทำให้ผลกำไรงอกเงยเมื่อกลับสู่ตลาดในประเทศด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ตลาดระบุว่าการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการนำเข้ากำลังส่งผลเสียต่องบการเงินของบริษัทต่างๆ เพราะเงินเยนที่อ่อนค่าลง ซึ่งกระทบการใช้จ่ายของผู้บริโภค

ที่มา xinhuathai

.-011