มะนิลา (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) -ฟิลิปปินส์เปิดลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี สมาชิกรัฐสภา และสภาท้องถิ่นพร้อมกันในวันจันทร์ คาดว่าลูกชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์มาร์กอส ที่เคยถูกพลังประชาชนลุกฮือโค่นล้มเมื่อ 36 ปีก่อน น่าจะเป็นผู้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งและได้กลับมาปกครองประเทศอีกครั้ง

หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศได้เปิดให้ประชาชนไปหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น กระบวนการใช้สิทธิจะนานกว่าปกติเพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 คูหาปิดในเวลา 19.00 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 18.00 น.วันเดียวกันตามเวลาในไทย และจะมีการประกาศผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง คณะกรรมการการเลือกตั้งแถลงว่า สถานการณ์โดยรวมเป็นไปอย่างเรียบร้อย มีเพียงเหตุกลุ่มมือปืนกราดยิงใส่คูหาเลือกตั้งแห่งหนึ่งในเมืองบูลูอัน จังหวัดมากินดาเนาบนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักเกิดเหตุไม่สงบจากฝีมือของกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่ม ทำให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 3 ศพ และบาดเจ็บ 1 คน

ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 65 ล้านคน จะเลือกตั้งประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกผู้แทนราษฎรผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาท้องถิ่นรวมประมาณ 18,000 ตำแหน่ง การเลือกตั้งครั้งนี้ เฟอร์ดินานด์ “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นบุตรชายอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส มีคะแนนนิยมทิ้งห่างคู่แข่งถึงร้อยละ 30 โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เกิดหลังยุคบิดาถูกโค่นอำนาจในปี 2529 และหาเสียงโดยใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นหลัก เขาไม่ได้ชูนโยบายที่มีความแตกต่างชัดเจน คาดว่าจะสานต่อนโยบายของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตขณะที่ เลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีวัย 57 ปี อดีตทนายความสิทธิมนุษยชนที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญ รับปากจะปรับปรุงการศึกษาและสวัสดิการสังคม ต่อสู้ความยากจน และปรับปรุงการแข่งขันในระบบตลาดเสรี

สำหรับผู้ที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้จะเข้าดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 มิถุนายน โดยจะมีวาระในการบริหารประเทศรวม 6 ปี ซึ่งผู้นำคนใหม่จะต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่างที่จะต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาความยากจน