31 พ.ค.65 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลแคนาดาเตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมการซื้อขายปืนพก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายควบคุมปืนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยที่กฎหมายฉบับนี้จะจำกัดความจุของซองกระสุนและห้ามเล่นของเล่นบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายอาวุธคล้ายปืน

นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา เผยเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมาย ที่มุ่งระงับจำนวนผู้ครอบครองปืนทั่วประเทศ (national freeze) โดยห้ามการซื้อ จำหน่าย โอน หรือนำเข้าปืนพกทั่วประเทศต่อรัฐสภาแล้ว หรือเรียกได้ว่าเป็นการหยุดการเติบโตของตลาดปืนพก และหากร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบ ก็จะสามารถลงโทษปรับผู้ลักลอบนำเข้าปืนด้วยการเพิ่มโทษทางอาญาในระดับสูงสุด และให้เครื่องมือเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพื่อสอบสวนอาชญากรรมเกี่ยวกับปืน การออกกฎหมายดังกล่าวมีความจำเป็น เนื่องจากปัจจุบันมีสถิติความรุนแรงที่เกิดจากการใช้ปืนเพิ่มสูงขึ้นดังเช่นหลายประเทศที่ตั้งอยู่ทางใต้ของสหรัฐฯ  หากรัฐบาลแคนาดาไม่ลงมืออย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงจนเกินกว่าจะรับมือได้ในอนาคต

กฎหมายดังกล่าวจะไม่อนุญาตให้ผู้ที่อยู่ภายใต้คำสั่งคุ้มครอง ผู้ที่มีประวัติก่อคดีเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัว หรือสะกดรอยตามผู้อื่น ได้รับใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน รวมถึงการจำกัดซองกระสุนของปืนยาวไม่ให้บรรจุกระสุนได้เกิน 5 นัด และสั่งห้ามการขายหรือส่งต่อซองกระสุนปืนที่บรรจุกระสุนได้หลายนัด นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ยังสั่งห้ามการเล่นของเล่นบางชนิดที่มีลักษณะคล้ายปืนจริง เช่น ปืนอัดลมเบา (airsoft gun) หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนได้เกิดเหตุตำรวจของนครโทรอนโตในรัฐออนแทรีโอของแคนาดา ยิงชายถือปืนอัดลมเสียชีวิต

แม้แคนาดามีกฎหมายควบคุมปืนที่เข้มงวดกว่าสหรัฐฯ และมีสถิติใช้ปืนก่อเหตุฆาตกรรมไม่ถึงร้อยละ 25 ของสหรัฐ แต่ก็เป็นตัวเลขที่สูงกว่ากลุ่มประเทศร่ำรวยอื่น ๆ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในปี 2563 แคนาดามีสถิติใช้ปืนก่อเหตุฆาตกรรมมากกว่าออสเตรเลียถึง 5 เท่า ทั้งนี้ แคนาดามีสถิติใช้ปืนก่อเหตุฆาตกรรมพุ่งสูงขึ้นในปี 2563 และ 2560 ซึ่งทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2540 โดยแคนาดาเคยประกาศแบนอาวุธปืน 1,500 ชนิด หลังเกิดเหตุกราดยิงครั้งเลวร้ายของประเทศที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย เมื่อเดือนเมษายน 2563

-001