โควิดทั่วโลกกลับมาพุ่ง
ติดเชื้อใหม่รายวันทะลุ8.4แสนคน
WHOเตือนยุโรปลามเพิ่มฤดูร้อน
โควิดทั่วโลกกลับมาติดเชื้อพุ่งวันเดียว 8.4 แสนราย ป่วยสะสม 552 ล้านรายฝรั่งเศส-เยอรมนี ทะลุ 1 แสน อิตาลี 8.3 หมื่น ขณะที่สหรัฐ 8.5 หมื่น ญี่ปุ่นกลับมาสูง ป่วยใหม่ 2.3 หมื่น โตเกียวยกระดับเตือนภัย โอมิครอนลามWHO เตือนป่วยโควิดขาขึ้นทั่วโลก เตือนยุโรปอาจเผชิญโควิดระบาดหนักหน้าร้อนนี้ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตลอดเดือนที่ผ่านมา กำชับและขอให้ประเทศต่างๆ ติดตามการแพร่ระบาด
สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมา 840,278 ราย ยอดติดเชื้อสะสม 552,610,002 ราย รักษาตัวหายแล้ว 527,796,147 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1,489 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 6,387,964 ราย โดยในช่วง24 ชั่วโมง สหรัฐพบผู้ติดเชื้อใหม่ 85,976 ราย ยอดติดเชื้อสะสม 89,360,080 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 228 รายยอดเสียชีวิตสะสม 1,042,678ราย มากที่สุดของโลก
ที่น่าสนใจประเทศในทวีปยุโรปพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นจำนวนมากต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส ติดเชื้อใหม่ 133,346 ราย เยอรมนี 113,099 ราย อิตาลี 83,274 ราย ขณะที่ทวีปอเมริกาใต้ พบบราซิล ติดเชื้อใหม่ 75,106 ราย ชิลี 10,896 ราย ในทวีปเอเชียปรากฎว่าญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อใหม่ 23,346 ราย อินเดีย 19,118 ราย เกาหลีใต้ 9,585 ราย ซึ่งในการพบผู้ติดเชื้อใหม่สูงขึ้นอีกครั้งของญี่ปุ่น ทำให้เมืองหลวง กรุงโตเกียว ยกระดับเตือนภัยการแพร่ระบาดโควิดสู้ระดับสูงสุดเป็นอันดัน 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ โดยเฉพาะ ในกรุงโตเกียว มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,621 ราย เพิ่มขึ้นต่อเนื่องซึ่้งเป็นเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์BA.5 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ25ของผู้ติดเชื้อในโตเกียวและกำลังจะมาแทนสายพันธุ์ BA.2
WHOเผยป่วย‘โควิด’ขาขึ้นทั่วโลก
องค์การอนามัยโลกออกมาระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกโดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น18%หรือกว่า4.1ล้านคนทั่วโลก ขณะที่การเสียชีวิตยังใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ราว 8,500 ราย
รายงานประจำสัปดาห์ขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดระบุว่า มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากที่สุดในตะวันออกกลางที่ 47% ขณะที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรปพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 23% และในอเมริการเพิ่มขึ้น 14% ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นใน 3 ภูมิภาค คือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และอเมริกา
สายพันธุ์ย่อยลาม110ประเทศ
นายเทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า พบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นใน110ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากตัวแปรโอมิครอนBA.4และBA5
โดยระบุว่า ระบาดของโควิด-19 กำลังเปลี่ยนแปลง และมันยังไม่จบ ขณะนี้ความสามารถในการติดตามการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของโควิด-19กำลังอยู่ภายใต้ภัยคุกคาม เนื่องจากประเทศต่างๆได้ผ่อนคลายมาตรการเฝ้าระวัง รวมถึงความพยายามในการจัดลำดับทางพันธุกรรม ซึ่งทำให้การติดตามสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเป็นอันตรายทำได้ยากยิ่งขึ้นด้วย
ผอ.องค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้ประเทศต่างๆสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางที่สุด รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เพราะขณะนี้มีผู้คนอีกหลายร้อยล้านคนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และมีความเสี่ยงที่จะมีอาการป่วยร้ายแรงและเสียชีวิตหากติดเชื้อ เพราะแม้อัตราการฉีดวัคซีนทั่วโลกจะอยู่ที่กว่า 1.2 พันล้านโดส แต่ค่าเฉลี่ยของการสร้างภูมิคุ้มกันในประเทศยากจนอยู่ที่ราว 13% เท่านั้น
เตือนยุโรปโควิดระบาดหนักหน้าร้อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO)ออกมาเตือนว่า ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรป อาจจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19เป็นจำนวนมากในช่วงฤดูร้อนนี้ ภายหลังจากตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา ได้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
โดย นพ.ฮันส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการ องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรป กล่าวเตือนว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19ในช่วงฤดูร้อนนี้ สืบเนื่องมาจากประเทศต่างๆ ในยุโรป ได้ยกเลิกมาตรการเข้มงวด เช่น การไม่ตรวจหาเชื้อ การไม่สวมหน้ากากอนามัย และการไม่เว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น
หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง3เท่า
พร้อมกันนี้ ผอ.WHOประจำภูมิภาคยุโรป ยังแสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ BA.5ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอไมครอนโดยระบุว่าขณะนี้ในพื้นที่ 53 ประเทศ ในยุโรปแจ้งพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน BA.5 เพิ่มขึ้นวันละเกือบ 500,000ราย เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากวันละ150,000 ราย เมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม
โดยในออสเตรีย ไซปรัส ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ลักเซมเบิร์ก และโปรตุเกส เป็นกลุ่มที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุด ส่วนยอดผู้เสียชีวิต ในขณะนี้อยู่ที่วันละ500 คนใกล้เคียงกับฤดูร้อนปี 2563
กำชับและขอให้ปท.ติดตามคุมเข้ม
นอกจากนี้ นพ.คลูเกอ ได้แนะนำขอให้ประชาชนในภูมิภาคยุโรป สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานแออัด และรับการฉีดวัคซีนป้องกันตามระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงต้องกักตัวหากมีอาการป่วยติดเชื้อ พร้อมทั้งแนะนำขอให้รัฐบาลของประเทศต่างๆยังคงมาตรการตรวจหาเชื้อแก่ประชาชนเพื่อเพื่อให้รู้เท่าทันรูปแบบการแพร่เชื้อและการกลายพันธุ์ในการควบคุมการแพร่ระบาดรวมทั้งเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน เพราะการเพิ่มภูมิคุ้มกันหมู่และลดความเสี่ยงให้แก่ผู้สูงวัยจะช่วยลดอัตราเสียชีวิตในฤดูร้อนนี้ได้.
ยุโรปติดฝีดาษลิงสะสมทะลุ4พัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคยุโรป ( อีซีดีซี ) และองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ประจำภูมิภาคยุโรป ร่วมกันเผยแพร่รายงานสถานการณ์ของโรคฝีดาษลิงในภูมิภาค ว่าสถิติผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 4,177 คน นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา จากจำนวนดังกล่าว 25% อยู่ในสหราชอาณาจักร ตามด้วยเยอรมนี 838 คน สเปน 736 คน โปรตุเกส 365 คน และฝรั่งเศส 350 คน
ด้านสำนักงานดับเบิลยูเอชโอประจำภูมิภาคแอฟริกา ซึ่งถือว่าฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่น ยืนยันผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 1,821 คน ในอย่างน้อย 13 ประเทศ นับตั้งแต่ต้นปีนี้ และเตรียมเพิ่มกำลังการตรวจเชิงรุก ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของตุรกีรายงานการพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงคนแรก เปิดเผยเพียงว่า เป็นชายวัย 37 ปี ตอนนี้เข้าสู่กระบวนการยกกักตัวเพื่อรักษาตามอาการแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี