มอสโก/เคียฟ (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซีนิวส์) - กลุ่มสิทธิมนุษยชนในรัสเซียเผยว่า มีคนถูกจับกุมมากกว่า 3,000 คนจากการชุมนุมทั่วรัสเซีย ประท้วงประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ที่สั่งระดมพลครั้งใหม่เพื่อต่อสู้กับยูเครน ขณะที่มีรายงานรัสเซียปล่อยนักโทษชาวยูเครน215 คน ที่ถูกจับในเมืองท่ามาริอูโปล แลกกับที่ยูเครนปล่อยนักโทษรัสเซีย 55 คน

กลุ่มโอวีดี-อินโฟ (OVD-Info) ที่มุ่งต่อต้านการข่มเหงทางการเมืองแจ้งว่ามีคนถูกจับกุมอย่างน้อย 1,332 คนถูกควบคุมตัวตามสถานที่ชุมนุมใน 38 เมืองรวมถึงเมืองใหญ่อย่างกรุงมอสโกและนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หลังจากสถานีโทรทัศน์ของรัฐแพร่ภาพการแถลงของประธานาธิบดีปูติน เมื่อเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เป็นการชุมนุมในรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับจากการชุมนุมที่เกิดขึ้นหลังจากปูตินประกาศเรื่องใช้ปฏิบัติการทางทหารกับยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มีรายงานคนถูกตำรวจปราบจลาจลจับกุมกลางถนนช้อปปิ้งหลักในกรุงมอสโกอย่างน้อย 50 คนส่วนที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตำรวจควบคุมตัวผู้ประท้วงแบบประกบตัวต่อตัวขณะที่ผู้ประท้วงตะโกนว่า ไม่เอาการระดมพล

สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย รายงานว่า กระทรวงมหาดไทยอ้างว่าได้ทำลายความพยายามจัดการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต และสามารถยุติการชุมนุมทุกแห่ง ส่วนผู้ทำการฝ่าฝืนถูกตำรวจควบคุมตัวไปแล้วเพื่อรอการสอบสวนและดำเนินคดี นายเซอร์เก ชอยกูรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเผยเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียจะระดมพลกำลังสำรองในเบื้องต้น300,000 คน หลังจากปูตินกล่าวทางโทรทัศน์กับคนทั้งประเทศว่า จะใช้ทุกช่องทางทางทหารที่มีอยู่ ขณะที่ข้อมูลของบริษัทนำเที่ยวและสายการบินระบุว่า เที่ยวบินออกจากรัสเซียเต็มเกือบทุกเที่ยวแล้วในสัปดาห์นี้ ดูเหมือนจะเป็นการหลั่งไหลออกนอกประเทศของชาวรัสเซียที่ไม่ต้องการเข้าร่วมสงคราม

ด้านสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า รัสเซียปล่อยนักโทษชาวยูเครน215 คน แลกกับที่ยูเครนปล่อยนักโทษรัสเซีย55 คน รวมทั้งพันธมิตรของประธานาธิบดีรัสเซีย เจ้าหน้าที่ยูเครน เผยว่าในกลุ่มนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวมีรวมทั้งเหล่าผู้บัญชาการกองกำลังอาซอฟที่นำนักรบกบดานต่อสู้ต้านการโจมตีของทหารรัสเซียที่โรงงานเหล็กในเมืองมาริอูโปล เมืองท่าในภาคตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคปกครองตนเองโดเนต์สกที่รัสเซียให้การสนับสนุนในยูเครน ก่อนยอมมอบตัวต่อกองกำลังที่รัสเซียให้การสนับสนุนเมื่อเดือนพฤษภาคม และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ฝ่ายยูเครน ได้ปล่อยนักโทษชาวรัสเซีย 55 คน รวมทั้งนายวิคเตอร์เมดเวดชุค พันธมิตรของประธานาธิบดีปูตินผู้นำพรรคการเมืองที่สนับสนุนรัสเซียในยูเครน และถูกตั้งข้อหากบฏในยูเครน

การแลกตัวนักโทษระหว่างยูเครนและรัสเซียครั้งนี้ เกิดขึ้นแบบไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ตั้งแต่ผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นภูมิภาคโดเนตสก์ที่รัสเซียสนับสนุนประกาศจะไต่สวนดำเนินคดีเหล่านักรบของกองกำลังอาซอฟซึ่งรัสเซียกล่าวหาว่าเป็นพวกนาซีและฟาสซิสต์ แต่ยูเครนปฏิเสธและว่าหน่วยรบอาซอฟ ตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 เพื่อต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุน ไม่ได้เป็นพวกฟาสซิสต์และได้ปฏิรูปปรับเปลี่ยนอุดมการณ์จากหลักชาตินิยมสุดโต่งแล้ว