เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 สำนักข่าวรอยเตอร์ เสนอข่าว Singapore food vendors launch first hawker center in New York ระบุว่า ศูนย์อาหารแบบ “Hawker” ซึ่งมีที่มาจากวัฒนธรรมอาหารริมทาง หรือสตรีทฟู้ดของประเทศสิงคโปร์ เปิดสาขาแรกในย่านแมนฮัตตัน เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีร้านอาหาร 17 ร้าน ในจำนวนนี้ 11 ร้านมาจากสิงคโปร์โดยตรง ระดมเมนูเลื่องชื่อแดนลอดช่องมาอวดโฉม อาทิ ปูผัดพริก ไข่เจียวหอยนางรม และข้าวมันไก่สไตล์ไหหลำ ซึ่งมีความโดดเด่นจากกลิ่นหอมของข้าว
เคเอฟ ซีโต๋ (KF Seetoh) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารชาวสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้คัดเลือกผู้ค้ามาร่วม Urban Hawker ที่นิวยอร์ก เปิดเผยว่า ตนเจอชาวสิงคโปร์ที่อาศัยในนิวยอร์กมาตั้งแต่ 20-35 ปี ซึ่งคนเหล่านี้ยังคงคิดถึงอาหารที่บ้านเกิดอยู่ ทั้งนี้ สตรีทฟู้ดในสิงคโปร์ไม่ใช่แค่การเผาหรือทอด มันมีกระบวนการซับซ้อน คนครัวต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมงในการเตรียมอาหารเพื่อให้พร้อมเสิร์ฟในช่วงเวลา 10.00 หรือ 11.00 น.
ที่มาที่ไปของการนำสตรีทฟู้ดจากสิงคโปร์มาที่สหรัฐฯ เกิดขึ้รในปี 2556 เมื่อ ซีโต๋ ได้พบกับ แอนโธนี บัวร์เดน (Anthony Bourdain) เชฟชื่อดังชาวอเมริกัน โดยเวลานั้น บัวร์เดน ไปเยือนสิงคโปร์ในงานสตรีทฟู้ด และรู้สึกตื่นเต้นมากกับแนวคิดที่จะมีตลาดสตรีทฟู้ดในนิวยอร์ก ทำให้ในเวลาต่อมา ซีโต๋ ได้ติดต่อไปยัน เอลดอน สก็อต (Eldon Scott) ประธานของ Urbanspace บริษัทซึ่งดูแลตลาดสาธารณะในนิวยอร์ก ซึ่ง สก็อต ก็สนใจอย่างรวดเร็ว แม้ว่า สก็อต ยอมรับว่าไม่เคยไปสิงคโปร์เลยก็ตาม
กูรูอาหารจากแดนลอดช่อง คาดหวังว่า ศูนย์อาหารแห่งนี้จะปักหลักและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอีกหลายๆ แห่งบนแผ่นดินสหรัฐฯ ซึ่งเหมือนกับการส่งออกความอร่อยตำรับของคุณย่า-คุณยาย ที่ตนได้เติบโตมาด้วย ขณะที่ชาวสิงคโปร์อย่าง แมกดาลีน ซิม (Magdalene Sim) ให้ความเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า อาหารนั้นดี แต่สิ่งที่หายไปคือไม่มีจานพลาสติก ช้อน-ส้อม และบรรยากาศร้อนๆ ที่แผดเผา รวมถึงการต้องต่อคิวซื้ออาหาร ส่วน จูเลีย ลี (Julie Lee) หนึ่งในลูกค้า เล่าว่า ตนมาที่นี่ครั้งที่ 3 แล้ว และชอบเมนูข้าวมันไก่ของร้าน Hainan Jones เพราะรสชาติเข้มข้นแต่ก็นุ่มลิ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชาวสิงคโปร์เฮลั่น! ยูเนสโกรับขึ้นทะเบียน'อาหารแผงลอย'เป็นมรดกโลกแล้ว
- 006