16 พ.ย.65 สำนักข่าวรอยเตอร์ เสนอข่าว Ugandan leader says anti-Ebola efforts starting to succeed อ้างคำกล่าวของ โยเวรี มูเซเวนี (Yoweri Museveni) ประธานาธิบดียูกันดา ที่เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสอีโบลาในยูกันดา เริ่มเห็นสัญญาณการควบคุมโรคได้แล้ว โดย 2 เมืองที่มีสถานการณ์รุนแรง บันยันกาโบ (Bunyangabo) และ คากาดี (Kagadi) ปัจจุบันไม่พบผู้ติดเชื้อแล้ว โดยนับจากเมื่อผ่านไป 42 วัน อันเป็น 2 รอบของวงรอบการฟักตัวของเชื้อ จึงสามารถปลด 2 เมืองนี้ออกจากรายชื่อพื้นที่ติดตามผลได้

ปธน.มูเซเวนี ยังกล่าวด้วยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโดยรวมลดลง แต่ผู้ติดเชื้อบางส่วนยังถูกกักตัวใน 2 เมือง คือคาสซานดา (Kasanda) และ มูเบนเด (Mubende) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดในภาคกลางของประเทศ ก่อนที่เชื้อจะแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ พร้อมกับยกตัวอย่างอันตรายการละเมิดมาตรการควบคุมโรคขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์ กรณีของประชาชนที่เมืองคาสซานดา มีครอบครัวหนึ่งสูญเสียสมาชิกไปถึง 11 ราย เพราะไปขุดศพญาติที่เสียชีวิตจากอีโบลา ขึ้นมาประกอบพิธีอีกครั้ง ทำให้ติดเชื้อจากศพดังกล่าว

มาตรการควบคุมโรคยังรวมถึงการห้ามรถขนไม้ซุงเข้า-ออกทั้ง 2 เมือง เนื่องจากพบขบวนการลักลอบพาคนออกจากพื้นที่ นอกจากนั้นยังมีการแจ้งรายชื่อกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้หลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งหมายถึงการนำเชื้อไประบาดในประเทศอื่นๆ ขณะที่ เจน รูธ อาเซ็ง (Jane Ruth Aceng) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขยูกันดา เปิดเผยว่า ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อในเมืองจินจา (Jinja) ทางภาคตะวันออกของประเทศ จากเดิมที่ก่อนหน้านี้การระบาดจะอยู่ในภาคกลาง 

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ไวรัสอีโบลาที่กำลังระบาดในยูกันดาในปัจจุบัน เป็นเชื้อสายพันธุ์ซูดานที่ยังไม่มีวัคซีนใช้เป็นการเฉพาะ ต่างจากไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซาอีร์ที่ระบาดเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงการระบาดในระลอกก่อนหน้าที่เกิดขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันตกของยูกันดา ทั้งนี้ นับตั้งแต่ประกาศการระบาดอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ก.ย. 2565 ยูกันดามีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 141 คน เสียชีวิตรวม 55 ราย

ที่มา reuters

.-011