ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวใหญ่ในตุรกีและซีเรีย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เพิ่มเป็นมากกว่า 46,000 รายแล้ว ขณะที่หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่า อาจเกิดโรคระบาดในพื้นที่ประสบภัย ด้านทารกที่คลอดระหว่างเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้ ล่าสุดมีญาติมารับไปเลี้ยงดูแล้ว
โดยล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตในตุรกีอยู่ที่ 40,642 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในซีเรียมีมากกว่า 5,800 ราย สำนักงานจัดการภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉินของตุรกี หรือ เอเอฟเอดี เผยว่า ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยส่วนใหญ่จะยุติลงในคืนวันนี้ตามเวลาตุรกี ก่อนหน้านี้ ทีมกู้ภัยจากคาซัคสถานพยายามช่วยชาวซีเรียครอบครัวหนึ่งจำนวน 5 คน ที่ติดอยู่นานกว่า 13 วัน ใต้ซากอาคารที่พังถล่มในเมืองอันตักเกีย ทางใต้ของตุรกี พวกเขาช่วยได้บิดา มารดา และลูก 1 คน ส่วนลูกอีก 2 คน เสียชีวิตไปก่อนแล้ว อย่างไรก็ดี เด็กที่รอดเสียชีวิตในภายหลังเพราะภาวะขาดน้ำ มีข้อมูลว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.8 และอาฟเตอร์ช็อกที่ตามมาหลายระลอก ทำให้อาคารชุดพักอาศัยในตุรกีพังเสียหายประมาณ 345,000 หลัง
ขณะเดียวกัน บรรดาผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ในตุรกีเริ่มกังวลถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดโรคระบาดในพื้นที่ภัยพิบัติ ที่อาคารนับหมื่นหลังพังถล่มลงมา ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านสุขอนามัยได้รับความเสียหายอย่างหนัก
รัฐมนตรีสาธารณสุขของตุรกี เผยว่า ไม่กี่วันมานี้พบผู้ประสบภัยมีอาการติดเชื้อโรคทางเดินอาหารและทางเดินหายใจส่วนบนมากขึ้น แต่จำนวนยังไม่เป็นภัยร้ายแรงต่อสาธารณสุข อย่างไรก็ดี จะมีการบังคับใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อสังเกตการณ์และป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด
ด้านโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ ดับเบิลยูเอฟพี เผยว่า รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลซีเรียให้ความร่วมมือด้วยดีในการจัดสรรความช่วยเหลือไปให้แก่ผู้ประสบภัย แต่ปฏิบัติการในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผชิญอุปสรรค เพราะทางการในพื้นที่ไม่อนุญาตให้เข้าถึงตามที่ต้องการ ทำให้เกิดการขาดแคลนสิ่งบรรเทาทุกข์ จึงขอเรียกร้องให้เพิ่มการเปิดด่านข้ามพรมแดนจากทางฝั่งตุรกี
ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า ทารกที่คลอดระหว่างเกิดแผ่นดินไหว และได้รับช่วยเหลือออกจากซากอาคารพังถล่ม ในเมืองจันดารีส จังหวัดอะเลปโป พื้นที่ครอบครองของฝ่ายกบฎทางตอนเหนือของซีเรีย จนมีการส่งต่อเผยแพร่ลงสื่อสังคมออนไลน์ไปทั่วโลก ต่อมาพบว่าพ่อแม่และพี่ๆ ของทารกน้อย ต่างเสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว โดยทีมแพทย์ได้ดูแลทารกน้อย จนกระทั่งติดตามพบญาติที่เหลืออยู่ ซึ่งก็คือลุงกับป้าจึงได้มารับไปเลี้ยงดูดังกล่าวพร้อมตั้งชื่อว่า "อาฟรา" ตามชื่อของมารดาผู้ล่วงลับ
ผู้เป็นลุงระบุว่า ที่มารับจีงทารกน้อยล่าช้า เพราะต้องรอตรวจสอบกระบวนการทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่ และระบุว่าหลานมีความหมายต่อทั้งสองคนมาก เพราะเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตจากครอบครัวของเด็ก จึงเป็นเสมือนตัวแทนความทรงจำของลุงและป้า รวมทั้งของญาติคนอื่นๆ และทุกคนในหมู่บ้าน ที่รำลึกถึงครอบครัวของหนูน้อยที่เสียชีวิตไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี