ลูกค้าจำนวนหนึ่งยืนรวมตัวด้านนอกธนาคาร ซิลิคอน วัลเลย์ หรือเอสวีบี สาขาในเมืองซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ หลังมีข่าวธนาคารแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินใหญ่อันดับ 15 ของสหรัฐฯ ถูกผู้คุมกฎด้านการเงินของรัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งปิดและยึดธนาคาร พร้อมเข้าควบคุมเงินฝากทั้งหมด

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 ผู้คุมกฎด้านการเงินของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ สั่งปิดและเข้ายึดธนาคาร ซิลิคอน วัลเลย์ สถาบันการเงินใหญ่อันดับ 16 ของสหรัฐฯ และเข้าควบคุมเงินฝากทั้งหมด นับเป็นเหตุธนาคารล้มครั้งใหญ่สุดในสหรัฐฯ ในรอบ 15 ปี

สำนักงานคุ้มครองทางการเงินและนวัตกรรมแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งยุติการดำเนินงานของธนาคาร ซิลิคอน วัลเลย์ หรือเอสวีบี ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่เน้นให้บริการกับผู้ประกอบกิจการสตาร์ตอัฟ ในซิลิคอน วัลเลย์ เนื่องจากวิกฤตสภาพคล่อง และการไม่ประสบความสำเร็จในการระดมเงิน 2,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเพิ่มทุน

ดีเอฟบีไอให้เหตุผลในการสั่งปิดธนาคาร ซิลิคอน วัลเลย์ เพื่อคุ้มครองเงินฝากของประชาชน และขอให้สถาบันคุ้มครองเงินฝากกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เข้ามาจัดการทรัพย์สินต่อ ซึ่งสถาบันคุ้มครองเงินฝากกลางออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา ว่าจะขายสินทรัพย์ของธนาคาร เพื่อนำเงินมาจ่ายให้แก่เจ้าของบัญชีและเจ้าหนี้ โดยเจ้าของบัญชีเงินฝากซึ่งมีหลักประกัน จะสามารถเข้าถึงเงินฝากส่วนที่ได้รับความคุ้มครอง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 8.7 ล้านบาท) ต่อ 1 บัญชี ภายในวันที่ 13 มี.ค.ส่วนลูกค้าที่ไม่ได้รับการประกันเงินฝาก ทางเจ้าหน้าที่จะนำเงินที่ได้มาจากการขายสินทรัพย์ของธนาคารเอสวีบี มาจ่ายให้

สำหรับธนาคาร ซิลิคอน วัลเลย์ ให้บริการกับธุรกิจสตาร์ตอัปและบริษัทไฮเทคในซิลิคอน วัลเลย์ มาตั้งแต่ช่วงทศวรรษหลังปี 2523 ก่อนการล่มสลายในครั้งนี้ ถือเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่อันดับที่ 16 ของสหรัฐ มีสินทรัพย์ 209,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 7.27 ล้านล้านบาท) และการปิดธนาคาร ซิลิคอน วัลเลย์ หรือเอสวีบี ถือเป็นการล่มสลายของสถาบันการเงินครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ธนาคาร วอชิงตัน มิวชวล เมื่อปี 2551

ด้าน เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลยังคงเชื่อมั่นต่อกลไกภาคการธนาคารของประเทศว่ามีความยืดหยุ่นเพียงพอ และหน่วยงานการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องมีกลไกซึ่งมีประสิทธิภาพเพียงพอ เพื่อบริหารจัดการกับสถานการณ์ลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นกับเอสวีบีนั้นน่าวิตกกังวล

- 006