ปารีส (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส) - ฝ่ายค้านฝรั่งเศสยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง หลังรัฐบาลใช้อำนาจพิเศษผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปบำนาญ โดยข้ามการลงมติออกเสียงของสส. ไป ขณะที่ผู้ประท้วงต้านการเพิ่มอายุเกษียณปะทะตำรวจเป็นคืนที่ 2 ในกรุงปารีสและอีกหลายเมือง ผู้ประท้วงถูกจับกุมกว่า 300 คน
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสส. ฝ่ายค้านฝรั่งเศสยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มี.ค. ท่ามกลางความไม่พอใจที่พุ่งสูงขึ้นต่อรัฐบาลประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง หลังใช้อำนาจพิเศษผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปบำนาญ โดย สส.ฝ่ายค้านยื่นญัตติไม่ไว้วางใจทันที หลังประธานาธิบดีมาครงผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปบำนาญ โดยอาศัยอำนาจพิเศษตามมาตรา 49.3 ในรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส ที่ให้อำนาจรัฐบาลสามารถผ่านร่างกฎหมายในสภาผู้แทนฯ ได้ โดยข้ามการออกเสียงลงมติของ สส. ไป สำหรับญัตติไม่ไว้วางใจจะสำเร็จได้ ต้องได้เสียงสนับสนุนส่วนใหญ่ของสส. คืออย่างน้อย 287 เสียงในสภาผู้แทนฝรั่งเศส
ขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงที่ต้านแผนเพิ่มอายุเกษียณเป็น 64 ปี ปะทะกับตำรวจปราบจลาจลเมื่อคืนวันที่ 18 มี.ค. เป็นคืนที่ 3 ทั้งในกรุงปารีสและอีกหลายเมือง
ก่อนหน้านี้ การใช้อำนาจพิเศษของรัฐบาลฝรั่งเศสผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปบำนาญเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 มี.ค. ได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงทั่วฝรั่งเศสครั้งใหม่ในคืนวันเดียวกันนั้นในทันที กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสรายงานมีผู้จับกุม 310 คนทั่วฝรั่งเศส รวมถึง 258 คนในกรุงปารีส ในการประท้วงคืนแรกวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน การนัดหยุดงานในภาคพลังงานฝรั่งเศสจะยกระดับความเข้มข้นมากขึ้น โดยคนงานประกาศจะหยุดการผลิตที่โรงกลั่นขนาดใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ถึงวันจันทร์หน้า ยกระดับจากการหยุดงานแบบหมุนเวียนโดยไม่กระทบการผลิตมาระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ โรงกลั่นอีกหลายแห่งยังได้ส่งมอบเชื้อเพลิงออกไปน้อยกว่าปกติด้วย สร้างความหวั่นกลัวว่าจะเกิดการขาดแคลนเชื้อเพลิงได้