ไต้หวันเรียกทูตประจำฮอนดูรัสกลับ
ไทเป - กระทรวงต่างประเทศไต้หวัน กล่าวในแถลงการณ์ว่า ฮอนดูรัสละเลยไม่ให้ความสนใจกับมิตรภาพระหว่างไต้หวันกับฮอนดูรัสที่มีมายาวนานกว่า 80 ปี เมื่อส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไปเยือนจีน ซึ่งเป็นการทำลายความรู้สึกของรัฐบาลและประชาชนไต้หวันอย่างรุนแรง รัฐบาลไต้หวันได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตไต้หวันประจำฮอนดูรัสกลับในทันที เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างยิ่ง กระทรวงต่างประเทศไต้หวัน ประกาศเรื่องนี้ในขณะที่ เอดูอาร์โด เอนริเก เรนา รัฐมนตรีต่างประเทศฮอนดูรัส กำลังเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อหารือในเรื่องการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีซิโอมารา กัสโตร ของฮอนดูรัส สั่งให้นายเรนา เริ่มดำเนินการสถานปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ซึ่งเท่ากับเป็นการตัดความสัมพันธ์กับไต้หวัน ขณะที่จีนยังไม่ยืนยันเรื่องการเยือนดังกล่าว แต่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า จีนพร้อมสถาปนาความสัมพันธ์กับฮอนดูรัส
เมียนมาเตรียมรับโรฮีนจากลับ
เนปิดอว์ - ซอว์ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาเปิดเผยว่าทางการเตรียมจะรับตัวชาวโรฮีนจาจากบังกลาเทศเดินทางกลับมายังเมียนมา ตามโครงการนำร่องส่งกลับผู้ลี้ภัย ซึ่งในช่วงแรก จะรับชาวโรฮีนจากลับมาจำนวน 1,000 คน คาดว่าจะดำเนินการได้เร็วที่สุดในราวกลางเดือนหน้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลเมียนมา 17 คน ได้เดินทางไปยังค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาในเมืองคอกซ์บาซาร์ ของบังกลาเทศ เพื่อประเมินความพร้อมของผู้ลี้ภัยในการเดินทางกลับเมียนมา โดยการทำงานในครั้งนี้มีจีนทำหน้าที่เป็นคนกลาง ขณะที่สหประชาชาติก็ช่วยอำนวยความสะดวกด้วย สำหรับสิ่งที่ต้องประเมิน เช่น การพิสูจน์ว่าผู้อพยพเหล่านั้นเคยอาศัยอยู่ในเมียนมา ก่อนที่จะเกิดการปราบปรามเมื่อปี 2017 อย่างไรก็ดีชาวโรฮีนจาจำนวนมากในค่ายผู้อพยพที่บังกลาเทศยอมรับว่า ยังไม่มั่นใจเรื่องการเดินทางกลับไปยังเมียนมา เพราะยังกังวลเรื่องความปลอดภัย และไม่เชื่อว่ารัฐบาลเมียนมามีความจริงใจ
ยูเอ็นวิตกปัญหาน้ำโลก
สหประชาชาติ – สหประชาชาติ หรือยูเอ็น เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเรื่องน้ำโลกเป็นเวลา 3 วัน เพื่อผลักดันวาระปฏิบัติการด้านน้ำทั่วโลก อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า กว่า 1 ใน 4 ของประชากรโลก พึ่งพาน้ำดื่มที่ไม่ปลอดภัย ส่วนอีกครึ่งหนึ่งขาดสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน ในขณะเดียวกัน เกือบ 3 ใน 4 ของภัยพิบัติต่างๆ ทั่วโลกที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับน้ำ ทุกคนกำลังสูบเลือดที่จำเป็นสำหรับชีวิตของมนุษยชาติ ผ่านการบริโภคซึ่งมากเกินไป และการใช้ที่ไม่ยั่งยืน รวมถึงการที่น้ำระเหยเพราะความร้อนของโลก ด้านลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น กล่าวว่า สหรัฐจะลงทุน 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.67 ล้านล้านบาท) ในด้านน้ำและสุขอนามัยในบ้านและทั่วโลก พร้อมกับเสริมว่า เงินจำนวนนี้จะช่วยสร้างงาน ป้องกันความขัดแย้ง ปกป้องสุขภาพของประชาชน ลดความเสี่ยงของความอดอยากและความหิวโหย รวมทั้งช่วยตอบสนอง ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ