16 พ.ค.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมอิหร่านดำเนินการ ประหารชีวิต ผู้ต้องโทษในคดีลักลอบค้ายาเสพติด 5 คน ด้วยการแขวนคอเมื่อวันจันทร์ที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา

เว็บไซต์มิซานออนไลน์ระบุจากนายโมจทาบา กาฮรามานี หัวหน้าผู้พิพากษาของจังหวัดโฮรมุซกอน ทางตอนใต้ของประเทศ ว่าอาชญากรและผู้ติดอาวุธที่ลักลอบขนยาเสพติดทั้งหมดถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอตามคำพิพากษาของศาลสูงอิหร่าน และเจ้าหน้าที่ดำเนินการแขวนคอผู้ต้องโทษทั้งหมดเมื่อช่วงเช้าที่เรือนจำบันดาร์ อับบาส และมินับ ในจังหวัดโฮรมุซกอน

การตัดสินแขวนคอครั้งล่าสุดนี้ ทำให้จำนวนผู้ถูกประหารชีวิตของอิหร่านเพิ่มเป็น 8 ราย ภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ จากข้อหาลักลอบค้ายาเสพติดเช่นกัน หลังศาลมีคำสั่งประหารชีวิตสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติด 3 คน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ต่อมา สหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวเตือนเกี่ยวกับการประหารชีวิตในอิหร่าน ซึ่งมีจำนวนครั้ง “มากขึ้นอย่างน่าใจหาย”

ตามข้อมูลของกลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่ม รวมถึงองค์การนิรโทษกรรมสากล “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” อิหร่านประหารชีวิตผู้คนต่อปี มากกว่าทุกประเทศ โดยเป็นรองเพียงจีนเท่านั้น

ขณะที่ นายโฟลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ส่งสัญญาณเตือนถึงสถิติที่ “น่ารังเกียจ” ของอิหร่านในปีนี้ ด้วยการประหารชีวิตโดยเฉลี่ยมากกว่า 10 คนต่อสัปดาห์

อนึ่ง อิหร่านมีผู้ถูกประหารชีวิตในปีนี้มากกว่า 210 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงของยูเอ็นระบุว่า จำนวนที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก

ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนอิหร่าน (ไอเอชอาร์) และกลุ่มแนวร่วมต่อต้านโทษประหารชีวิต (อีซีพีเอ็ม) ระบุในรายงานร่วม เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาว่า อิหร่านประหารชีวิตด้วยการแขวนคอเพิ่มขึ้น 75% ในปี 2565 อีกทั้งยังมีผู้ถูกประหารชีวิตอย่างน้อย 582 คน ในปีเดียวกัน นับเป็นตัวเลขการประหารชีวิตสูงสุดของประเทศ นับตั้งแต่ปี 2558

.-011