วอชิงตัน/ปักกิ่ง (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น/ซีซีทีวี)-ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ย้ำ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ไม่มีแผนจะใช้กลไกรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ผ่าทางตันวิกฤตเพดานหนี้ เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ผลการเจรจาผ่าทางตันเพดานหนี้ล่าสุด 2 พรรคเห็นพ้องจะไม่ปล่อยให้สหรัฐฯ ต้องผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ด้านจีนเตือนสหรัฐฯ อย่าเอาความเสี่ยง
ทางการเงินการคลังของตัวเอง มาโยนให้คนทั้งโลกต้องพลอยเสี่ยงอันตรายไปด้วย
คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่มีแผนจะนำรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับแก้ไขครั้งที่ 14 มาใช้เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ที่ใกล้เข้ามา จากที่ก่อนหน้านี้เคยเปรยๆ กำลังดูว่า จะนำรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขที่ 14 มาใช้แก้ปัญหาเพดานหนี้ ได้หรือไม่ แต่เขายังเกรงว่าจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ การแถลงของทำเนียบขาวล่าสุดนี้สะท้อนว่าประธานาธิบดีไบเดนเลิกคิดจะผ่าทางตันปัญหาวิกฤตเพดานหนี้ด้วยการใช้กลไกรัฐธรรมนูญแล้ว ในขณะที่เหลืออีก 1 สัปดาห์สหรัฐฯ อาจต้องผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ กล่าวต่อไปว่า รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขฉบับที่ 14อนุญาตให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ อาจจะสามารถเพิกเฉยต่อการจำกัดเพดานหนี้สาธารณะได้ แต่จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาในปัจจุบันที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ได้
ส่วนผลการเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่ระหว่าง 2 พรรคในการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะที่ชนเพดานล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 23 พ.ค. ฌอง-ปิแอร์ระบุว่า ทั้ง 2 พรรคเห็นพ้องกันการปล่อยให้สหรัฐฯ ต้องผิดนัดชำระหนี้นั้นไม่อยู่บนโต๊ะเจรจา และการจะใช้วิธีเพิ่มเพดานหนี้ระยะสั้น เพื่อต่อเวลาเจรจาระหว่างไบเดนกับ เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พรรครีพับลิกัน ให้มากขึ้นนั้นก็ไม่ได้อยู่บนโต๊ะเจรจาเช่นกัน ทั้งนี้ การเจรจาผ่าทางตันเพดานหนี้ล่าสุดใช้เวลานาน 2 ชั่วโมงแต่กลับไม่มีผลคืบหน้าแต่อย่างใด และยังไม่ได้นัดวันหารือครั้งต่อไปด้วย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดนผู้นำพรรคเดโมแครต กับ แมคคาร์ธี ได้เจรจาด้วยตัวเองกันมาแล้ว 3 รอบตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วถึงต้นสัปดาห์นี้ โดยปราศจากผลในการบรรลุความตกลงเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ เพื่อไม่ให้ต้องผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นอย่างเร็ว ประเด็นที่ยังแตกต่างแตกแยกกันอย่างมากคือ จะใช้วิธีใดลดการขาดดุลงบประมาณรัฐบาลกลาง เดโมแครตของไบเดนต้องการขึ้นภาษีคนร่ำรวยและธุรกิจ แต่รีพับลิกันต้องการให้รัฐบาลใช้วิธีตัดลดรายจ่าย
ทั้งนี้ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้เตือนแล้วว่า รัฐบาลกลางจะหมดเงินชำระหนี้สาธารณะตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นอย่างเร็ว
และเตือนหากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ จะส่งผลกระทบทุบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอย และทำให้ดอกเบี้ยทุกอย่างพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ดอกเบี้ยไฟแนนซ์รถ ไปจนถึงหนี้บัตรเครดิต
ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ชี้ว่า ประเด็นปัญหาเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ เป็นเรื่องภายในของสหรัฐฯ แต่เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ปัญหาดังกล่าวสามารถส่งผลกระทบสำคัญ โดยล้นออกไปนอกสหรัฐฯ และไปกระทบต่อเศรษฐกิจโลกได้ ผ่านสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐฯ และการตัดสินใจทางด้านนโยบายของสหรัฐฯ รัฐบาลจีนหวังว่า สหรัฐฯจะดำเนินนโยบายการเงินการคลังอย่างมีความรับผิดชอบ และอย่าได้ย้ายเอาความเสี่ยงจากปัญหาเพดานหนี้สาธารณะของตนเอง ให้ต้องไปตกอยู่กับโลกทั้งโลก และอย่าฉวยโอกาสเอาเปรียบโลก เพียงเพื่อประโยชน์ของตนเองอย่างเห็นแก่ตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี