สื่อสิงคโปร์จับตา‘เพื่อไทย’ดึง‘พรรค2ลุง’ร่วมตั้งรัฐบาล เกมเดิมพันความเชื่อมั่นประชาชน ยุคที่มี‘ก้าวไกล’เป็นคู่แข่ง
17 ส.ค. 2566 สำนักข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์ เสนอรายงานพิเศษ Analysis: Democracy champion to new face of conservatives — how Pheu Thai's moves to regain power could shape Thai politics ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของ “พรรคเพื่อไทย” จากก่อนหน้านี้ที่ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของฝ่ายประชาธิปไตย แต่ปัจจุบันกำลังกลายเป็นสมาชิกใหม่ของฝ่ายอนุรักษ์นิยม เนื่องจากกติกาของรัฐธรรรมนูญ บีบให้ต้องแยกทางกับพันธมิตรสำคัญอย่าง “พรรคก้าวไกล” ที่ชนะการเลือกตั้ง แล้วหันไปจับมือกับพรรคขั้วรัฐบาลเดิมเพื่อให้สามารถตั้งรัฐบาลใหม่ได้
โอกาสของพรรคเพื่อไทยในการส่งบุคคลชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการลงมติจากที่ประชุมร่วมของรัฐสภา ดูจะแข็งแรงขึ้นไปอีก เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2566 ไม่รับคำร้องที่ขอให้ทบทวนมติที่ประชุมรัฐสภา ที่ไม่ให้เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (Pita Limjaroenrat) หัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าสู่การลงมติเลือกนายกฯ ซ้ำเป็นหนที่ 2 และปูทางไปสู่การเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกฯ ในสัปดาห์หน้า ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า สัญญาณทั้งหมดกำลังชี้ไปที่พรรคเพื่อไทยต้องร่วมมือกับพรรคที่เชื่อมโยงกับทหารเพื่อรักษาโอกาสในการเป็นรัฐบาล
ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี (Siripan Nogsuan Sawasdee) อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเมืองไทยวันนี้เป็นการแข่งขันระหว่างอุดมการณ์ 3 ชุด คือพวกหัวก้าวหน้า (Progressive) พวกอนุรักษ์นิยมสายกลาง (Centrist-Conservative) และพวกอนุรักษ์นิยมแบบจารีต (Traditionalist) ซึ่งการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยไปทางฝ่ายขวาทำให้ธรรมชาติของอนุรักษ์นิยมกลายเป็นจุดสนใจ และทำลายภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางคนมองว่าเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย
บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ระบุว่า ในการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องอาศัยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา หรือ 376 เสียง อันประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 500 คน และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 250 คน รวม 750 คน เงื่อนไขนี้เขียนขึ้นในสมัยรัฐบาลทหารที่ทำรัฐประหารในปี 2557 อีกทั้ง สว. ชุดแรกตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังได้รับเลือกจากรัฐบาลทหาร ซึ่งพวกเขาจะดำรงตำแหน่งครบวาระ 5 ปี ในวันที่ 11 พ.ค. 2567
นี่คือความยากลำบากของพรรคเพื่อไทย ในการส่งชื่อ เศรษฐา ทวีสิน (Srettha Thavisin) เป็นต้วแทนของพรรคเข้าสู่สภาเพื่อขอเสียงโหวตให้เป็นนายกฯ คนต่อไป จากกฎหมายที่เป็นมรดกตกค้างมาจากสมัยรัฐบาลทหาร และผู้ที่ทำรัฐประหารก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (Prayut Chan-o-cha) นากยฯ คนปัจจุบัน โดยเป็นการยึดอำนาจจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เมื่อ 9 ปีก่อน
นั่นหมายความว่าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก สว. ทางตันทางการเมืองอาจยืดเยื้อ และในกรณีที่ไม่สามารถแต่งตั้งบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอชื่อไว้ตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม รัฐธรรมนูญก็เปิดโอกาสให้มีกระบวนการที่สามารถนำ “นายกฯ คนนอก” เข้ามาได้ ปัจจุบัน แนวร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยมีคะแนนเสียง 238 เสียง ยังขาดอีกอย่างน้อย 137 เสียงเพื่อรักษาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับเศรษฐา
แต่ท่าทีล่าสุดของพรรคก้าวไกล ที่ประกาศเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2566 จะไม่ยกมือโหวตให้ตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ยิ่งเพิ่มอุปสรรคและข้อขัดแย้งในการแสวงหาอำนาจ และพรรคเพื่อไทยจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเป็นพันธมิตรกับ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (Prawit Wongsuwon) รองนายกฯ ในรัฐบาลปัจจุบัน เป็นหัวหน้าพรรค และ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่หาเสียงด้วยการส่งชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ชิงตำแหน่งนายกฯ ก่อนที่หลังการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จะประกาศวางมือทางการเมืองไป
ด้วยที่นั่ง สส. ของทั้ง 2 พรรค รวมกัน 76 คน บวกกับอิทธิพลต่อ สว. อีก 249 คนอาจทำให้พรรคเพื่อไทยมีแรงผลักดันครั้งสุดท้ายในการจัดตั้งรัฐบาล ในวันโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 22 ส.ค. 2566 อนึ่ง การแข่งขันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเกิดขึ้นพร้อมกับการกลับมาของทักษิณ ชินวัตร (Thaksin Shinawatra) อดีตนายกฯ ซึ่งถูกรัฐประหารในปี 2549 ตระกูลชินวัตรนั้นมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แพทองธาร ชินวัตร (Paetongtarn Shinawatra) ลูกสาวของทักษิณ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยส่งชื่อชิงเก้าอี้นายกฯ
ปัจจุบันทักษิณลี้ภัยอยู่ในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อนหน้านี้เคยมีแผนจะกลับบ้านในวันที่ 10 ส.ค. 2566 แต่ภายหลังเลื่อนการเดินทางออกไปโดยอ้างว่ามีนัดทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง มองว่าเหตุผลคือการที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่ง รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล (Thanaporn Sriyakul) นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มองว่า พรรคเพื่อไทยจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา แม้จะต้องขัดกับสิ่งที่เคยหาเสียงไว้ว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคที่สนับสนุนกองทัพก็ตาม
การเป็นพันธมิตรของพรรคเพื่อไทยกับพรรคที่เชื่อมโยงกับการทหารสามารถรับประกันได้ว่าทักษิณจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย แม้กระทั่งมีการคาดการณ์ว่าพรรคเพื่อไทยอาจเสนอตำแหน่งนายกฯ ให้ พล.อ.ประวิตร จากพลังประชารัฐเพื่อแลกกับการกลับมาของทักษิณ แต่นักวิเคราะห์บางส่วนไม่เห็นด้วย โดย ศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า คนอาจคิดว่าการมอบตำแหน่งนายกฯ ให้ พล.อ.ประวิตรจะทำให้ทักษิณกลับบ้านได้ แต่พรรคเพื่อไทยจะแน่ใจได้อย่างไรว่าหากไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาล ทักษิณจะกลับมาอย่างปลอดภัย
อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ผู้นี้ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยทำให้สถานะทางการเมืองที่แท้จริงของพรรคดูโปร่งใสมากขึ้น กล่าวคือ พรรคเพื่อไทยประนีประนอมกับอำนาจดั้งเดิม รักษาสถาบันดั้งเดิม และดำเนินไปอย่างระมัดระวังตามกฎ เพราะก่อนหน้านี้ หลายคนมองว่าพรรคเพื่อไทยมีความเป็นซ้ายเล็กน้อย แต่วันนี้พรรคกำลังจะกลายเป็นแกนนำของฝ่ายอยนุรักษ์นิยม ส่วนฝ่ายซ้ายของการเมืองไทยปัจจุบันคือพรรคก้าวไกลที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานซึ่งมีนโยบายปฏิรูปและจุดยืนเสรีนิยม นั่นทำให้พรรคดังกล่าวแปลกแยกจากกลุ่มการเมืองอื่นๆ
ขณะที่ฝ่ายขวาซึ่งเป็นพรรคการเมืองอนุรักษ์นิยมแบบจารีต จะมีพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งสนับสนุนโครงสร้างและขนบธรรมเนียมทางสังคมแบบเดิม แต่การที่มีทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งแม้จะมีมุมมองต่างกันแต่อยู่ในกรอบประชาธิปไตยเหมือนกัน ก็ทำให้คนไทยมีทางเลือกมากขึ้นและไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพรรคการเมืองอนุรักษ์นิยมแบบจารีต
แม้ยังไม่มีการยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ในการแถลงข่าวของพรรคเพื่อวันที่ 15 ส.ค. 2566 ภูมิธรรม เวชยชัย (Phumtham Wechayachai) รองหัวหน้าพรรค แสดงท่าทีมั่นใจว่า เศรษฐาจะได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาให้เป็นนายกฯ และการจัดตั้งรัฐบาลจะแล้วเสร็จประมาณปลายเดือน ส.ค. หรือต้นเดือน ก.ย. 2566 และกล่าวด้วยว่า ใครก็ตามที่โหวตให้ก็จะขอบคุณ ซึ่งจะอยู่ในสมการและพรรคจะพิจารณาแม้ว่าจะไม่มีข้อผูกมัด แต่หากไม่ลงคะแนนให้ก็จะไม่อยู่ในสมการนี้
แต่ในมุมของนักวิชาการ รศ.ดร.ธนพร มองว่า การที่พรรคเพื่อไทยเล่นเกมการเมืองที่ระบอบเก่ามีอำนาจเหนือกว่า อาจบั่นทอนอนาคตทางการเมือง เพราะคนไทยเอือมระอากับการเมืองแบบนี้ที่คำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนไม่มีความหมาย การเมืองที่ประชาชนมีความหมายเพียงในวันเลือกตั้ง แต่หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับนักการเมืองที่จะทำอะไรก็ได้ และนั่นคือการเมืองเก่าที่กำลังเห็นอยู่ในขณะนี้
รายงานของสื่อสิงคโปร์ ทิ้งท้ายด้วยความเห็นของ ศ.ดร.สิริพรรณ ว่า ด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทยต้องชั่งใจกับประเด็นขัดแย้ง 2 ประการ หนึ่งคือการลงโทษจากผู้มีสิทธิออกเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า กับสองคือการสูญเสียภาพลักษณ์ในฐานะสัญลักษณ์แห่งประชาธิปไตย ต่อโอกาสการได้อำนาจคืนและความเชื่อถือของประชาชน นี่คือความสูญเสียครั้งใหญ่ 2 ประการที่อาจประสบ และเกี่ยวข้องกับการสูญเสียความเชื่อมั่นและศรัทธาในพรรค
แต่อีกด้านหนึ่ง จุดแข็งของพรรคเพื่อไทยก็คือการนำเสนอนโยบาย และวิธีเดียวที่จะทำเช่นนั้นได้คือการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยร่วมกับกลุ่มผู้ปกครองเก่า โดยพรรคเพื่อไทยหวังว่าจะใช้ความสามารถที่มีในการบริหารประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมา และนั่นคือ “เกมเดิมพัน” ที่พวกเขาเลือกที่จะเล่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี