8 ก.ย. 2566 Ukr Agro Consult องค์กรวิเคราะห์และให้ข้อมูลข่าวสารด้านธุรกิจการเกษตรกับชาวยูเครน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเคียฟ เผยแพร่รายงาน Thai rice shipments up after India’s export ban อ้างข้อมูลจากเครือข่ายข้อมูลการเกษตรทั่วโลกล่าสุดจากบริการการเกษตรต่างประเทศ (FAS) ของกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การส่งออกข้าวของไทยระหว่างปี 2565-2666 น่าจะอยู่ที่ 8.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงระหว่างปี 2564-2565 เนื่องจากความต้องการสูงจากประเทศผู้นำเข้าและการผลิตนอกฤดูกาลที่สูงขึ้น 

ความต้องการข้าวไทยเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่อินเดียวางข้อจำกัดการส่งออกข้าวขาวและข้าวกล้อง ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ในปี 2565-2566 เป็นรองเพียงอินเดีย โดยการผลิตข้าวในไทยอยู่ที่ประมาณ 20.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากปีก่อน ซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่อันดับ 7 ของโลก 

ถึงกระนั้น ผลผลิตข้าวไทยในปีการตลาดที่กำลังจะมาถึง หรือช่วงระหว่างปี 2566-2567 จะลดลงร้อยละ 6 จากการคาดการณ์ครั้งก่อน ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 19.6 ล้านตัน ปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยผลิตข้าวได้น้อยลงคือปริมาณน้ำที่เหลือน้อย โดยเฉพาะการทำนาปรัง หรือนานอกฤดูกาล ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ซึ่งกรมชลประทานของไทย คาดการณ์ว่า โครงการน้ำชลประทานในช่วงเริ่มต้นยุตปี 2566-2567 จะลดลงร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับวันที่ 1 พ.ย. 2565

รายงานกล่าวต่อไปว่า การนำเข้าข้าวสาลีในปี 2566-2567 ของไทย คาดว่าจะลดลง 2.7 ล้านตัน เนื่องจากโรงแป้งยังคงมีสต็อกข้าวสาลีอยู่ในระดับสูง และความต้องการอาหารสัตว์ยังคงมีจำกัด เนื่องจากการผลิตสุกรยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่หลังจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) รัฐบาลไทยจึงมีแนวโน้มที่จะรักษาข้อจำกัดการนำเข้าข้าวสาลีสำหรับอาหารสัตว์ ที่กำหนดให้โรงงานอาหารสัตว์ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ เป็นราคาพื้นรับประกันก่อนที่จะนำเข้าข้าวสาลีสำหรับอาหารสัตว์

ขอบคุณเรื่องจาก ukragroconsult