8 พ.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump to sign order on drug prices as early as next week, Politico reports อ้างรายงานของสำนักข่าวออนไลน์ Politico ซึ่งเน้นนำเสนอเนื้อหาด้านการเมือง โดยระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อาจลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการฟื้นความพยายามในการลดต้นทุนยา โดยจะผูกเงินที่รัฐบาลจ่ายสำหรับยาบางชนิดเข้ากับราคายาที่จำหน่ายในต่างประเทศ โดยคาดว่าคำสั่งดังกล่าวจะสั่งให้ผู้ช่วยดำเนินการตามแผนริเริ่มสำหรับยาบางชนิดภายใต้โครงการ Medicare
ย้อนไปเมื่อเดือน เม.ย. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์เคยรายงานว่า บริษัทผลิตยาได้รับคำเตือนว่าทรัมป์กำลังพิจารณานโยบายดังกล่าว และคาดว่าหน่วยงานที่ดูแลโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ จะเปิดตัวโครงการนำร่อง หากการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง อาจทำให้ได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากอุตสาหกรรมยา โยผู้บริหารบริษัทผลิตยารายหนึ่งเคยกล่าวถึงข้อเสนอนี้ว่าเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของอุตสาหกรรมและนวัตกรรมด้านชีววิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
หุ้นของบริษัทผลิตยาของสหรัฐฯ ร่วงลงในวันที่ 7 พ.ค. 2568 จากการซื้อขายระยะยาว โดยหุ้นของ Eli Lilly ร่วงลงมากกว่า 3% ส่วนหุ้นของ Merck Gilead Sciences และ Bristol Myers Squibb ร่วงลงประมาณ 2% ขณะที่ก่อนหน้านั้น ในวันที่ 6 พ.ค. 2568 ทรัมป์ เปิดเผยว่า ทำเนียบขาวจะประกาศเรื่องสำคัญเกี่ยวกับต้นทุนของยาในสัปดาห์หน้า
“เราถูกฉ้อโกงอย่างที่คุณทราบกันดีอยู่แล้ว เป็นการฉ้อโกงที่เลวร้ายมากเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของโลก” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า สหรัฐฯ มีรายจ่ายเกี่ยวกับยารักษาโรคสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ถึง 3 เท่า ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าตนต้องการแก้ปัญหานี้ แต่ไม่ได้ระบุอย่างเปิดเผยถึงวิธีการ แต่หากย้อนไปในการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์ มาตรการราคาอ้างอิงระหว่างประเทศที่เขาเสนอถูกศาลสั่งระงับ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวถูกคาดการณ์โดยทีมงานฝ่ายบริหารของทรัมป์ว่าจะช่วยให้ผู้เสียภาษีประหยัดเงินได้มากกว่า 85,000 ล้านเหรียญสหรัฐในระยะเวลา 7 ปี และส่งผลให้รายจ่ายยาของสหรัฐฯ ต่อปีลดลงกว่า 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
สถาบันวิจัยแนวอนุรักษ์นิยม America First Policy Institute ได้เผยแพร่เอกสารเผยแพร่ในเดือน มี.ค. 2568 โดยระบุว่านโยบายดังกล่าวสามารถนำไปปฏิบัติได้ภายในการเจรจาราคายาของ Medicare ขณะที่กฎหมายว่าด้วยการลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งออกมาในยุคของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) อนุญาตให้รัฐบาลเจรจาต่อรองราคายาที่มีราคาแพงที่สุดได้ โดยตามรายงานก่อนหน้านี้ของสำนักข่าวรอยเตอร์ ราคายาตามใบสั่งแพทย์ 10 รายการแรกที่เจรจาต่อรองยังคงสูงกว่าราคาเฉลี่ย 2 เท่า และในบางกรณีสูงกว่าราคาที่บริษัทยาตกลงกันไว้ถึง 5 เท่า
ขอบคุณเรื่องจาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/inter/879135 แก้ปัญหาชาวมะกันจ่ายค่ายาแพง! ‘ทรัมป์’อาจวางมาตรฐานอิงราคาต่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี