เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 นสพ.Taiwan News ของไต้หวัน เสนอข่าว Philippines terminates deals for China to fund 3 railway projects ระบุว่า ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ ทำให้ฝ่ายหลังไม่ต้องการรับการสนับสนุนเงินกู้สำหรับนำมาก่อสร้างเส้นทางรถไฟจำนวน 3 โครงการจากฝ่ายแรก โดยอ้างการเปิดเผยของ เจมี เบาติสตา (Jaime Bautista) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2566 ว่า กำลังมองหาแหล่งทุนอื่น
สำหรับโครงการรถไฟมินดิเนา โครงการรถไฟซูบิก-คลาร์ก และโครงการรถไฟแห่งชาติฟิลิปปินส์ เซาท์ลองฮอล

โครงการรถไฟมินดิเนา ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 5 หมื่นล้านบาท) ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ก.ย. 2566 และล่าสุดในสัปดาห์นี้ ทางการฟิลิปปินส์ยืนยันว่าไม่มีความพยายามที่จะทำงานร่วมกับจีนเพื่อจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการซูบิก-คลาร์ก มูลค่า 880 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบ 2.9 หมื่นล้านบาท) หรือโครงการรถไฟแห่งชาติ เซาท์ลองฮอล มูลค่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1 แสนล้านบาท) อีกต่อไป

ในปี 2561 โรดริโก ดูเตอร์เต (Rodrigo Duterte) ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในขณะนั้น ได้ทำข้อตกลงกับธนาคารนำเข้าเพื่อการส่งออกของจีนในปี 2561 สำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2565 ซึ่งฟิลิปปินส์ได้ประธานาธิบดนใหม่คือ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ (Ferdinand Marcos Jr.) ความคืบหน้าในเรื่องนี้ก็ได้หยุดชะงักลง โดย ปธน.มาร์กอส จูเนียร์ หันไปกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา และมีจุดยืนที่หนักแน่นมากขึ้นในการปกป้องผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้ ซึ่งฟิลิปปินส์มีปัญหาข้อพิพาทกับจีน

ตามการเปิดเผยของ เบาติสตา รัฐบาลฟิลิปปินส์อยู่ในการเจรจาเบื้องต้นกับ 2 ประเทศในทวีปเอเชียที่อาจสนใจที่จะจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการทางรถไฟหนึ่งโครงการหรือมากกว่านั้น นอกจากนี้ยังมองถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับบริษัทเอกชนหรือธนาคารเพื่อช่วยด้านการเงินสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน

- 006