ย่างกุ้ง (เอเอฟพี) – กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในเมียนมาอ้าง สามารถยึดฐานที่มั่นทางทหารได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่รุกคืบในการต่อสู้กับกองทัพในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ ด้านกองทัพรัฐบาลเมียนมาประกาศจะตอบโต้เอาคืนกลุ่มชาติพันธุ์

สื่อท้องถิ่นของเมียนมา รายงานว่า กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta’ang National Liberation Army) หรือ ทีเอ็นแอลเอ กองทัพอาระกัน (Arakan Army) หรือ เอเอ และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา(Myanmar National Democratic Alliance Army) หรือ เอ็มเอ็นดีเอเอซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ (The Brotherhood Alliance)อ้างว่า สามารถยึดฐานที่มั่นของกองทัพไปหลายสิบแห่ง เมือง 4 แห่ง และปิดกั้นเส้นทางการค้ากับจีนที่สำคัญหลายเส้นทาง ล่าสุด สามารถยึดฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนกองทัพได้ 2 แห่ง ใกล้กับเมืองล่าเสี้ยว เมืองใหญ่ที่สุดในรัฐฉาน และเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการภาคเหนือของกองทัพเมียนมา ส่วนเอ็มเอ็นดีเอเอสามารถยึดฐานที่มั่นทางทหารได้ 3 แห่ง ทางตะวันออกของรัฐฉาน

ขณะที่ทางรัฐบาลทหารเมียนมายังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการปะทะกัน ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ แต่เมื่อวันพฤหัสบดี โฆษกของกองทัพเมียนมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยระบุว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่ว่าสามารถยึดเมืองได้หลายเมืองในรัฐฉาน รัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่า กองทัพเอกราชกะชีน (Kachin Independence Army) หรือ เคไอเอ กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่งที่มีฐานที่มั่นในรัฐกะฉิ่นที่อยู่ติดกับรัฐฉาน ได้เข้าร่วมในการโจมตีกองทัพ และจะต้องถูกตอบโต้ต่อไป ในขณะที่สื่อท้องถิ่นกล่าวว่า กองทัพเมียนมาระดมยิงกระสุนเข้าใส่เมืองไลซา ติดชายแดนจีน ซึ่งเป็นกองบัญชาการของเคไอเอ

สหประชาชาติ กล่าวว่า การสู้รบเกิดขึ้นทั่วพื้นที่รัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมา ใกล้กับชายแดนจีน ในสัปดาห์นี้ ทำให้ประชาชนมากกว่า 23,000 คน ต้องอพยพหนีออกจากบ้านเรือนไปยังสถานที่ปลอดภัย