ซานฟรานซิสโก/กาซาซิตี/สหประชาชาติ/โดฮา (เอเอฟพี/รอยเตอร์) – รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยอมรับกังวลอย่างยิ่งกรณีโรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งของจอร์แดนที่อยู่ในฉนวนกาซาถูกโจมตีทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน พร้อมทั้งแสดงความไม่เห็นด้วยที่มีการโจมตีสถานพยาบาลต่าง ๆ แต่ไม่ได้กล่าวโทษอิสราเอลโดยตรง ด้านจีนเรียกร้องบังคับใช้มติหยุดยิงในกาซา หลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สามารถลงมติหยุดยิงสำเร็จเป็นครั้งแรก ในเดือนที่จีนนั่งประธานคณะมนตรีฯ

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ หารือทางโทรศัพท์กับ ไอย์มาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน เพื่อแจ้งถึงความกังวลอย่างยิ่งของเขาที่มีบุคลากรทางการแพทย์ของจอร์แดนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณด้านนอกของโรงพยาบาลสนามทางทหารของจอร์แดน ในขณะให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่จำเป็นแก่ประชาชนในฉนวนกาซา บลิงเคน ซึ่งกำลังเข้าร่วมการประชุมเอเปคอยู่ที่นครซานฟรานซิสโกในสหรัฐฯ ยังกล่าวย้ำว่า พลเรือนและบุคลากรทางแพทย์ในโรงพยาบาลจะต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง

ก่อนหน้านี้ที่กรุงวอชิงตัน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการเห็นโรงพยาบาลถูกโจมตีทางอากาศ และขอย้ำถึงพันธกรณีภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่กำหนดให้ทุกฝ่ายระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับพลเรือนและดำเนินการทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ในการลดผลกระทบต่อพลเรือน แต่แถลงการณ์ทั้งของบลิงเคนและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้กล่าวประณามการก่อเหตุโจมตีอย่างเปิดเผย และไม่ได้ระบุว่า ใครมีส่วนรับผิดขอบในเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น

ด้านจาง จวิน ผู้แทนถาวรจีนประจำสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เรียกร้องให้บังคับใช้มติหยุดยิงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ที่เพิ่งลงมติที่ 2712 เรียกร้องให้หยุดยิงในกาซาไปเมื่อวันพุธ (16 พ.ย.) ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่ยูเอ็นเอสซีสามารถผ่านมติหยุดยิงในกาซาได้สำเร็จ  นับตั้งแต่เกิดศึกอิสราเอลกับฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมเป็นต้นมา นับเป็นความสำเร็จของจีน ที่ขณะนี้นั่งเป็นประธานยูเอ็นเอสซีประจำเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ผ่านมา ยูเอ็นเอสซีล้มเหลวมาแล้ว 4 ครั้งในการพยายามผ่านมติหยุดยิงในกาซา มติล่าสุดที่ผ่านแล้วนี้ร่างโดยมอลตา

สาระสำคัญของมติที่ 2712 เรียกร้องให้ขยายการพักรบเพื่อมนุษยธรรมในกาซาโดยด่วน และให้ขยายระเบียงมนุษยธรรมไปทั่วทั้งฉนวนกาซาให้นานติดต่อกันหลายวัน เพื่อให้มีเวลาพอที่ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม รวมไปถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ จะสามารถเข้าถึงกาซาได้อย่างมากเพียงพอ เต็มที่ รวดเร็ว ปลอดภัยและไม่ถูกขัดขวาง ขณะที่จางยังเรียกร้องให้ยูเอ็นเอสซี ควรจะลงมติใหม่เพิ่มอีก ที่มีความเข้มแข็งและครอบคลุมมากกว่านี้ เพราะมติที่ 2712 ที่เพิ่งผ่านนี้ เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น และจำเป็นที่ยูเอ็นเอสซี จะต้องจัดตั้งกลไกใหม่ขึ้นมา เพื่อติดตามการบังคับใช้การปฏิบัติตามมติหยุดยิงในกาซา เพื่อติดตามและรายงานผลการบังคับใช้มตินี้