นิวเดลี (เอพี/รอยเตอร์ส) - คณะกรรมาธิการการเลือกตั้งของอินเดียประกาศว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่19 เมษายน และเสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิทั้งหมด 968 ล้านคน และจะมีการประกาศผลในวันนี้ 4 มิถุนายน

คณะกรรมาธิการการเลือกตั้งของอินเดียประกาศว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน และเสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิทั้งหมด 968 ล้านคน สูงกว่าการเลือกตั้งครั้งหลังสุดในปี 2562 ที่มีผู้ใช้สิทธิทั้งหมด 612 ล้านคน แต่เมื่อคิดเป็นสัดส่วนแล้ว มีผู้ไปใช้สิทธิลดลงร้อยละ 1
จากร้อยละ 67.4 ของการเลือกตั้งครั้งหลังสุดการเลือกตั้งปีนี้ถือเป็นการเลือกตั้งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แบ่งการใช้สิทธิออกเป็น 7 ระยะ นักวิเคราะห์ชี้ว่า สัดส่วนผู้ออกไปใช้สิทธิอาจลดลงในระยะแรกต้นๆ เนื่องจากไม่มีประเด็นใหญ่จูงใจให้ออกไปใช้สิทธิ

สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งเผยผลการหยั่งเสียงหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็กซิตโพลเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเลือกตั้งว่า พันธมิตรที่นำโดยพรรคภารติยะ ชนะตะ หรือบีเจพี มีแนวโน้มจะชนะด้วยเสียงข้างมากจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี สังกัดพรรคบีเจพี ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 14 เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2557 3 และจะทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีอินเดียคนที่ 2 เท่านั้น ต่อจาก ชวาหะร์ลาล เนห์รู ผู้นำเรียกร้องเอกราช ที่ชนะการเลือกตั้ง 3 สมัยติดต่อกัน

การเลือกตั้งอินเดียในปีนี้ยังเกิดขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด จากคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ชาวบ้านต้องออกมาลงคะแนนท่ามกลางอุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 43 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ บางพื้นที่อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 53 องศาเซลเซียส มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 85 ศพทั่วประเทศจากอาการป่วยที่เกี่ยวกับสภาพอากาศร้อน ในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งในหลายรัฐ ที่เสียชีวิตด้วยอาการฮีทสโตรกอย่างน้อย 33 ศพ ระหว่างการเลือกตั้งระยะสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพียงวันเดียว