โซล (รอยเตอร์ส/ยอนฮัพ) - ทหารเกาหลีเหนือที่ทำงานอยู่บริเวณเขตปลอดทหาร หรือ ดีเอ็มซี ซึ่งเป็นจุดแบ่งแยกดินแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ล่วงล้ำข้ามพรมแดนมาในพื้นที่เกาหลีใต้เป็นระยะเวลาสั้นๆ เมื่อวันพฤหัสบดี ก่อนกลับออกไป หลังจากที่เกาหลีใต้ยิงปืนเพื่อเป็นการเตือน เป็นการล่วงล้ำพรมแดนเกาหลีใต้ครั้งที่ 3 ในรอบ 12 วัน

คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ หรือ เจซีเอส เปิดเผยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ว่า ทหารเกาหลีเหนือกลุ่มหนึ่งที่ทำงานอยู่บริเวณเขตปลอดทหาร หรือ ดีเอ็มซี ซึ่งเป็นจุดแบ่งแยกดินแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนที่อยู่ตรงกลางของภายในดีเอ็มซี
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 09.00 น. วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย ทำให้กองทัพเกาหลีใต้ประกาศเตือนและยิงปืนเตือน ส่งผลให้ทหารเกาหลีเหนือกลับไปยังดินแดนของตนในทันที

เจซีเอสกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นการกระทำที่ไม่ได้เป็นความตั้งใจล่วงล้ำดินแดนแต่อย่างใด และเมื่อกลับไปแล้วทหารเกาหลีเหนือก็กลับไปปฏิบัติภารกิจเหมือนเดิมจนถึงเวลาค่ำ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในเดือนนี้ที่มีการล่วงล้ำดินแดนของเกาหลีใต้ หลังจากทหารเกาหลีเหนือประมาณ 20-30 คน ข้ามชายแดนมายังเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 9 และ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองครั้งที่เกิดขึ้น เจซีเอส ก็ระบุว่าทหารเกาหลีเหนือไม่ได้มีเจตนาจะล่วงล้ำดินแดน

การล่วงล้ำพรมแดนของทหารเกาหลีเหนือหลายครั้งในช่วงนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่กองทัพเกาหลีใต้สังเกตเห็นว่า มีทหารเกาหลีเหนือจำนวนมากกำลังทำงานก่อสร้างบริเวณพรมแดนเกาหลีเหนือ คาดว่ากำลังก่อสร้างป้อมปราการ หรือสร้างสิ่งต่อต้านรถถัง เสริมความแข็งของถนน และฝังกับระเบิด ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันพลเรือนและทหารเกาหลีเหนือ แปรพักตร์หนีข้ามไปยังเกาหลีใต้

ก่อนหน้านี้ กองทัพเกาหลีใต้คาดด้วยว่า เกาหลีเหนืออาจกำลังติดตั้งลำโพงจำนวนมาก ตอบโต้เกาหลีใต้ที่กลับมาฟื้นการเปิดลำโพงที่ติดอยู่ตามแนวชายแดนใหม่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และกระจายเสียงข้อความต่อต้านเกาหลีเหนือ

ขณะเดียวกัน ช่วงกลางดึกคืนวันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย. กลุ่มนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ ที่มีผู้นำเป็นชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ ชื่อ พาร์ค ซัง-ฮัคได้ปล่อยลูกโป่งรอบใหม่จำนวน 20 ลูก จากเมืองพาจู ชายแดนเกาหลีใต้ ให้ลอยเข้าไปในเกาหลีเหนือ สิ่งที่ติดไปกับลูกโป่งคือ ใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมด 300,000 ใบ และแท่งยูเอสบี 5,000 อันเก็บข้อมูลซีรี่ส์เกาหลีและเพลงเคป๊อป และธนบัตรจำนวน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดสูงสุดมานานหลายปีแล้ว นับตั้งแต่เกาหลีเหนือเร่งพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ