การากัส (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์)-เวเนซุเอลาประกาศผลการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ค.ให้ประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 ขณะที่ฝ่ายค้านประกาศชัยชนะเช่นกัน

ประธานคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งของเวเนซุเอลาประกาศหลังเที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ค. ว่า ผลคะแนนที่นับไปแล้วร้อยละ 80ประธานาธิบดีมาดูโร วัย 61 ปี เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง โดยได้คะแนนร้อยละ 51 ขณะที่เอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครจากฝ่ายค้าน วัย 74 ปี ได้คะแนนร้อยละ 44 ผลคะแนนดังกล่าวสวนทางกับผลหยั่งคะแนนเสียงหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือเอ็กซิตโพลของหลายสำนัก ที่ชี้ว่ากอนซาเลซมีคะแนนนำทิ้งห่างประธานาธิบดีมาดูโร

ประธานาธิบดีมาดูโรกล่าวต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่ทำเนียบประธานาธิบดีว่า การได้รับเลือกตั้งอีกสมัยของเขาเป็นชัยชนะแห่งสันติภาพและเสถียรภาพ พร้อมกับย้ำตามที่เคยย้ำระหว่างการหาเสียงว่า ระบบการเลือกตั้งของเวเนซุเอลามีความโปร่งใส เขาจะลงนามคำสั่งในวันนี้ให้เปิดการเจรจาแห่งชาติที่ยิ่งใหญ่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงในประเทศหลังผลเลือกตั้งออกมา

มาดูโรเป็นคนขับรถโดยสารที่กลายเป็นผู้นำสหภาพแรงงาน เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาในปี 2543 และได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 2556 เมื่อประธานาธิบดี ฮิวโก ชาเวซ ถึงแก่อสัญกรรม

ด้าน มาเรีย คอรินา มาชาโด ผู้นำฝ่ายค้านอ้างว่า กอนซาเลซ ผู้สมัครของฝ่ายค้าน ได้คะแนนร้อยละ 70 โดยอ้างเอ็กซิตโพลอิสระหลายแห่งและการนับคะแนนเบื้องต้นฝ่ายค้านเตรียมฉลองชัยชนะและเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนช่วยกันจับตาการนับคะแนนต่อไป อย่างไรก็ดี กอนซาเลซ กล่าวว่าจะไม่เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาชุมนุมหรือก่อความรุนแรง

ทั้งนี้ ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้จะส่งผลอย่างมากต่อวิถีชีวิตของประชาชนชาวเวเนซุเอลาทั้งประเทศกว่า 29.4 ล้านคน หลังจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าชาวเวเนซุเอลากว่า 7.8 ล้านคน อพยพออกนอกประเทศ เพื่อหนีปัญหาเศรษฐกิจและวิกฤตการเมืองในประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลของมาดูโร ขณะที่ผลสำรวจความเห็นก่อนหน้าการเลือกตั้งพบว่า ชาวเวเนซุเอลาอาจตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศมากขึ้น บางข้อมูลพบว่า อาจมีชาวเวเนซุเอลาอพยพมากถึง 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ