เคียฟ/มอสโก (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซีนิวส์) - รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคารของโรงเรียนฝึกทหารแห่งหนึ่งในเมืองโปลตาวาทางตอนกลางของประเทศยูเครน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 ศพ บาดเจ็บอีก 271 คนผู้นำยูเครนลั่นรัสเซียต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป

ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงให้คำมั่นว่า รัสเซียจะต้องรับผิดชอบกับเหตุโจมตีสถาบันฝึกทหารแห่งหนึ่งในเมืองโปลตาวา ทางตอนกลางของยูเครน ช่วงเช้าวันที่ 4 ก.ย. มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 ศพ มีทหารรวมอยู่ด้วยจำนวนมาก บาดเจ็บอีก 271 คน โดยรัสเซียยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 2 ลูกโจมตีอาคารแห่งหนึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก รวมถึงอาคารโรงพยาบาลอีกแห่งที่อยู่ใกล้เคียงเสียหายด้วย เช่นเดียวกับกระจกหน้าต่างของอาคารบ้านเรือนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงแตกเสียหายจากความรุนแรงการโจมตี ทหารผู้รอดชีวิตและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างเร่งค้นหาผู้เคราะห์ร้ายที่ติดใต้ซากอาคาร ส่วนชาวเมืองที่รู้ข่าวต่างพากันไปบริจาคโลหิต เพื่อนำมาช่วยผู้บาดเจ็บจำนวนมากที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด

โฆษกกระทรวงกลาโหมยูเครนเผยในแถลงการณ์ว่า แม้จะมีการส่งสัญญาณแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุร้าย แต่ขีปนาวุธถูกยิงตามหลังมาเร็วมากจนผู้คนส่วนใหญ่ไม่ทันได้ตั้งตัวหรืออพยพไปยังที่ที่ปลอดภัย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่มีรายงานว่า รัสเซียพุ่งเป้าโจมตีสถาบันฝึกทหารแห่งนี้ เนื่องจากกำลังเตรียมสถานที่จัดพิธีการของกองทัพบริเวณกลางแจ้ง ทำเอาผู้คนในยูเครนเดือดดาล บางส่วนไม่พอใจตำหนิเจ้าหน้าที่ที่ประมาท ยอมให้มีการจัดงานดังกล่าวขึ้น แม้จะมีภัยคุกคามจากการโจมตีของรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ทางรัสเซียไม่ได้ยืนยันว่าโจมตีเมืองดังกล่าว แต่บล็อกเกอร์ด้านการทหารของรัสเซียยอมรับว่า รัสเซียโจมตีโปลตาวา เป้าหมายอยู่ที่งานกลางแจ้งงานหนึ่งที่กำลังจัดขึ้นในเมืองนี้

สำหรับเมืองโปลตาวาแห่งนี้ อยู่ห่างจากกรุงเคียฟ ไปทางตะวันออกประมาณ 300 กิโลเมตร มีทางหลวงสายหลักและทางรถไฟ ที่เชื่อมกรุงเคียฟกับเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน โดยคาร์คีฟตั้งอยู่ใกล้พรมแดนรัสเซีย มีประชากรก่อนเกิดสงครามกับรัสเซียราว 300,000 คน

ขณะเดียวกัน รัสเซียยังยิงขีปนาวุธและโดรนพิฆาตโจมตีเมืองลวิฟ ทางตะวันตกของยูเครนในเวลาไล่เลี่ยกันด้วย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 10 คน อาคารบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง ขณะที่สัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังไปทั่วกรุงเคียฟเมื่อช่วงเช้าวานนี้ ระหว่างระบบป้องกันภัยทางอากาศสกัดกั้นขีปนาวุธของรัสเซียจำนวนมากที่ยิงเข้าใส่