นายกรัฐมนตรี มิเชล บาร์นิเยร์ ของฝรั่งเศส ลุกขึ้นยืนตอบรับเสียงปรบมือจากสมาชิกสมัชชาแห่งชาติฝ่ายรัฐบาล ระหว่างเข้าฟังการยืนญัตติไม่ไว้วางใจเมื่อวันพุธ ก่อนที่เขาจะยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) หลังจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยของเขาล่มจากการถูกลงมติไม่ไว้วางใจ กรณีผลักดันร่างงบประมาณโดยไม่ผ่านสภา
นายกรัฐมนตรี มิเชล บาร์นิเยร์ ของฝรั่งเศส ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง หลังจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยของเขาล่มจากการถูกลงมติไม่ไว้วางใจในสมัชชาแห่งชาติ กลายเป็นรัฐบาลอายุสั้นสุดเพียง 3 เดือน สั้นสุดในรอบเกือบ 70 ปี จับตาท่าทีประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง จะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทันที หรือให้นายกรัฐมนตรีคนเดิมและรัฐบาลรักษาการไปก่อน
การเมืองฝรั่งเศสได้เข้าสู่วิกฤตแห่งความไม่แน่นอนอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสซึ่งเป็นรัฐบาลสายกลางเสียงข้างน้อยของนายกรัฐมนตรี มิเชล บาร์นิเยร์ ล่มจากการถูกสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ หรือรัฐสภาฝรั่งเศส ทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาจัดผนึกกำลังลงมติสนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจต่อนายกรัฐมนตรีบาร์นีเยร์ ด้วยคะแนนสนับสนุน 331 เสียง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4 ธ.ค.) กรณีที่เขาที่ใช้อำนาจพิเศษในรัฐธรรมนูญ บังคับใช้ร่างกฎหมายงบประมาณที่ไม่ได้รับการยอมรับ ข้ามการลงมติอนุมัติครั้งสุดท้ายของรัฐสภาไป ร่างงบประมาณดังกล่าวกำหนดให้รัฐประหยัดงบประมาณ 60,000 ล้านยูโร (ราว 2.16 ล้านล้านบาท) เพื่อลดการใช้จ่ายภาครัฐและลดการขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล ซึ่งการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีบาร์นีเยร์และรัฐบาลดังกล่าว ส่งผลให้ร่างงบประมาณฉบับนี้ถูกตกในทันที
โดยเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) บาร์นิเยร์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อประธานาธิบดี เอมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ที่ทำเนียบประธานาธิบดีเอลิเซแล้ว ขณะที่กลุ่มแนวร่วมประชาชนใหม่ หรือ NFP กลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย และ นาซิยงนาล แรลลี หรือ RN พรรคขวาจัดของ มารีน เลอ เปน เรียกร้องให้ประธานาธิบดีมาครงลาออกจากตำแหน่งด้วย
ทำเนียบประธานาธิบดีเอลีเซ ระบุว่า ประธานาธิบดีมาครง ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากการเยือนซาอุดีอาระเบีย เตรียมแถลงการตัดสินใจต่อประชาชนทั้งประเทศในคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาฝรั่งเศส บางแหล่งข่าวคาดการณ์ว่า มาครงจะตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทันที ก่อนหน้าที่จะถึงวันพิธีเปิดมหาวิหารนอเทรอดามในวันเสาร์นี้ (7 ธ.ค.) ซึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะเดินทางไปร่วมพิธีด้วย แต่บางกระแสข่าวเชื่อว่า มาครงจะขอให้นายกรัฐมนตรีบาร์นีเยร์และรัฐบาลของเขารักษาการต่อไปก่อน เพื่อให้มาครงมีเวลาเลือกเฟ้นตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อันเป็นกระบวนการที่คาดว่าอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หลังจากนี้ การเมืองฝรั่งเศสจะตกอยู่ในสภาพวิกฤตแห่งความไม่แน่นอนต่อไป นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่มาครงเลือกมา อาจถูกสมาชิกสภาฝ่ายต่อต้านลงมติไม่รับรองต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่สามารถได้รับการยอมรับและะสนับสนุนจากพรรคต่างๆ มากพอที่จะผ่านกฎหมายในสมัชชาแห่งชาติได้ แต่หากมาครงเลือกให้รัฐบาลปัจจุบันที่ถูกลงมติไม่ไว้วางใจไปแล้ว ยังคงรักษาการต่อไป รัฐบาลรักษาการอาจเสนอกฎหมายฉุกเฉินเพื่อใช้บางมาตราในงบประมาณประจำปี 2024 ต่อไปจนถึงปีหน้า หรืออาจใช้อำนาจพิเศษ ผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2025 แต่นักกฎหมายเตือนว่า วิธีที่ 2 อาจไม่เป็นผลดีทางการเมืองต่อฝ่ายรัฐบาลเอง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี