อังการา/เบรุต/ดามัสกัส (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/อัล-จาซีรา) - ตุรกีเผยว่า ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดผู้นำซีเรียตัดสินใจหนีออกนอกประเทศ หลังจากรัสเซียและอิหร่านประเมินแล้วว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อสู้กับกลุ่มกบฏอีกต่อไป ด้านผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยอมรับว่า ได้สูญเสียเส้นทางส่งกำลังบำรุงผ่านซีเรียแล้ว แต่อาจกลับคืนสู่ภาวะปกติหลังจากซีเรียได้รัฐบาลชุดใหม่

ฮาคาน ฟิดาน รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นทีวีของตุรกี ว่า ตุรกีได้ประชุมหารือที่กรุงโดฮาของกาตาร์ กับผู้แทนจากรัสเซียและอิหร่านที่ให้การสนับสนุนประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองนาน 13 ปี จากนั้น รัสเซียและอิหร่านได้โทรศัพท์หา อัล-อัสซาด ในวันเสาร์ที่แล้ว (7 ธ.ค.) ก่อนที่ อัล-อัสซาด พร้อมครอบครัวจะเดินทางหนีออกนอกประเทศในเย็นวันเดียวกัน

ฟิดานระบุว่า รัสเซียและอิหร่านตระหนักแล้วว่าไม่มีประโยชน์ที่จะสนับสนุน อัล-อัสซาดอีกต่อไป และจะเกิดการนองเลือดมากยิ่งขึ้นไปอีก หากทั้ง 2 ประเทศพยายามหยุดยั้งกลุ่มกบฏตามที่เคยเป็นมา นอกจากนี้ อิสราเอลซึ่งรู้ดีว่า รัฐบาล อัล-อัสซาด มีศักยภาพที่ยังไม่เคยนำมาใช้โจมตีอิสราเอล และไม่มั่นใจว่ารัฐบาลซีเรียชุดใหม่จะมีจุดยืนอย่างไร ได้วางแผนยุทธศาสตร์ที่จะทำลายศักยภาพทั้งหมดของซีเรียให้สิ้นซาก จึงอาจเกิดการกระทำเพื่อยั่วยุขึ้นได้ รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีเผยด้วยว่า ยุทธศาสตร์หลักของทูร์เคีย คือ กำจัดกลุ่มวายพีจี ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในซีเรียที่อยู่ในเครือข่ายของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน หรือพีเคเคที่ต่อสู้เพื่อแยกดินแดนชาวเคิร์ดในตุรกี จึงหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ของซีเรียจะมีนโยบายเดียวกันเพื่อรับประกันบูรณภาพทางดินแดนของซีเรียเอง

ด้าน นาอิม กัสเซม ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กล่าวที่กรุงเบรุตของเลบานอน ว่า ขณะนี้ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ได้สูญเสียเส้นทางส่งกำลังบำรุงผ่านซีเรียแล้ว แต่อาจกลับคืนสู่ภาวะปกติหลังซีเรียได้รัฐบาลชุดใหม่ ฮิซบอลเลาะห์ยังไม่สามารถตัดสินกองกำลังใหม่ในซีเรียได้จนกว่ากองกำลังเหล่านี้จะมีเสถียรภาพและมีจุดยืนที่ชัดเจน กัสเซมกล่าวแสดงความหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ของซีเรียจะถือว่าอิสราเอลเป็นศัตรู และไม่คิดสถาปนาความสัมพันธ์ในระดับปกติ เพราะเรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของฮิซบอลเลาะห์กับซีเรีย นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำฮิซบอลเลาะห์แสดงความเห็นหลังจากรัฐบาลซีเรียของ อัล-อัสซาด ถูกกลุ่มกบฏยึดกรุงดามัสกัสและโค่นล้มกบฏจนต้องลี้ภัยไปอยู่ในรัสเซีย ก่อนหน้านี้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ใช้ซีเรียในสมัยอัล-อัสซาด และอิรัก เป็นเส้นทางในการลำเลียงอาวุธและยุทโธปกรณ์จากอิหร่านเข้ามายังเลบานอน จนกระทั่งกองกำลังกลุ่มกบฏได้ยึดพรมแดนซีเรียด้านติดกับอิรักและตัดเส้นทางดังกล่าวเมื่อวันที่6 ธันวาคม ก่อนบุกยึดเมืองหลวงได้ในอีก 2 วันต่อมา

ทั้งนี้ สถานการณ์ในกรุงดามัสกัสและพื้นที่ส่วนใหญ่ของซีเรียเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว โรงเรียนในกรุงดามัสกัสกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. เช่นเดียวกับสนามบินหลักในกรุงดามัสกัสอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเตรียมกลับมาเปิดทำการอีกครั้งเร็วๆ นี้ ขณะที่ตุรกีก็กลับมาเปิดสถานทูตประจำกรุงดามัสกัสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากปิดสถานทูตในกรุงดามัสกัสมาตั้งแต่ปี 2012 อ้างสาเหตุจากสงครามกลางเมืองต่อเนื่องยาวนานกว่า 13 ปี ในซีเรีย ถือเป็นสถานทูตต่างชาติแห่งแรกที่กลับมาเปิดทำการหน่วยงานสถานทูต หลังจากรัฐบาลอดีตประธานาธิบดี อัล-อัสซาด ถูกกลุ่มกบฏโค่นล้มจนต้องเดินทางออกนอกประเทศ