วอชิงตัน (รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น)-แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษที่เคยสอบสวน โดนัลด์ทรัมป์ ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ในคดีของรัฐบาลกลาง 2 คดี ได้ยื่นหนังสือลาออกจากกระทรวงยุติธรรมแล้ว ก่อนที่ทรัมป์จะสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้

สื่อท้องถิ่นในสหรัฐฯ รายงานเรื่องเอกสารที่ยื่นต่อ ไอลีน แคนนอน ผู้พิพากษาศาลแขวงรัฐบาลกลางที่ดูแลเขตฟลอริดาใต้เมื่อวันเสารที่ 11 ม.ค. ขอให้เธอยกเลิกคำสั่งศาลที่ยับยั้งการเผยแพร่รายงานฉบับสุดท้ายของเขา โดยระบุในเชิงอรรถหรือหมายเหตุข้างท้ายของเอกสารว่า สมิธได้ทำงานเสร็จสิ้นแล้ว โดยได้นำส่งรายงานลับฉบับสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 มกราคม และแยกตัวออกจากกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 10 มกราคม

สมิธ วัย 55 ปี ได้รับการแต่งตั้งจาก แมร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ ให้เป็นอัยการพิเศษเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 เพื่อนำการสอบสวนคดีอาญากับทรัมป์ในคดีพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 2563 และคดีเก็บเอกสารลับโดยมิชอบหลังจากพ้นตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2564 การสอบสวนถูกระงับเมื่อศาลฎีกาที่มีผู้พิพากษา 3 คนแต่งตั้งโดยทรัมป์มีคำชี้ขาดในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ว่า อดีตประธานาธิบดีไม่สามารถถูกฟ้องจากสิ่งที่กระทำในการปฏิบัติหน้าที่ขณะอยู่ในตำแหน่ง ตามด้วยการที่แคนนอนซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ในปี 2563 มีคำพิพากษาในวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ไม่ประทับรับฟ้องคดีเก็บเอกสารลับโดยมิชอบ โดยอ้างว่าการแต่งตั้งสมิธขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ต่อมา หลังจากที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 สมิธได้ยกฟ้องทั้ง 2 คดีโดยอ้างระเบียบของกระทรวงยุติธรรมเรื่องห้ามฟ้องร้องดำเนินคดีกับประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง การลาออกของนายสมิธเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายคาดหมายอยู่แล้ว เนื่องจากนายทรัมป์เคยประกาศว่า จะแก้แค้นนายสมิธและผู้ที่เคยสอบสวนเขา ทันทีที่เขากลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เขาจึงเลือกที่จะลาออกจากตำแหน่ง เพื่อที่จะไม่ต้องถูกทรัมป์หรือรัฐมนตรียุติธรรมในรัฐบาลชุดต่อไปปลดออกจากตำแหน่ง

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ฮวน เมอร์แชนผู้พิพากษาศาลนิวยอร์กที่ดูแลคดีเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ของทรัมป์ ตัดสินว่าทรัมป์มีความผิดในคดีดังกล่าว ทว่า จะได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข อีกทั้งไม่มีการสั่งปรับเงินหรือคุมประพฤติ เนื่องจากรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ให้การคุ้มครองทางกฎหมายพิเศษต่อผู้ที่ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี แต่การตัดสินดังกล่าวจะยังคงสถานะของทรัมป์ไว้ในฐานะอาชญากรระหว่างที่เขาดำเนินการอุทธรณ์