อดีตกลับมาหลอน!‘ฌอน ดัฟฟี’รมว.คมนาคม สุดหล่อของสหรัฐฯ โดนมือดีไปขุดคลิปวิดีโอเมื่อครั้งเป็นหนุ่มวัยกระทง แต่งหวิวแนวเปลื้องผ้าแดนซ์กระจาย ขณะที่ชาวเน็ตชี้น่าอับอาย ผิดหวัง และมีผลกระทบในวงกว้าง

6 ก.พ. 2568 เว็บไซต์ นสพ.Mint ของอินเดีย รายงานข่าว Breaking moves! Donald Trump’s transport chief Sean Duffy’s dance sparks widespread cringe ระบุว่า ฌอน ดัฟฟี (Sean Duffy) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) มลรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถูกแฉคลิปวีดีโอที่เจ้าตัวในสภาพวาบหวิวต้นรำอย่างสุดเหวี่ยงในสถานที่ส่วนตัว ตามรายงานจาก นสพ. Daily Mail ของอังกฤษ

มีรายงานว่า ฌอน ดัฟฟี เคยปรากฏตัวในรายการเรียลลิตี้ทีวี โดยมีคนเห็นเขากำลังเต้นรำอยู่หน้าต่าง ฉากหนึ่งเป็นภาพระยะใกล้ของคนกำลังเลียหน้าอก ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้เมื่อใดและที่ใด แต่เมื่อคลิปดังกล่าวถูกนำกลับมาแชร์ซ้ำอีกครั้ง ก็เรียกเสียงฮือฮาจากชาวเน็ตได้อย่างมาก โดยชาวเน็ตรายหนึ่งมองว่า “น่าขยะแขยง” ซึ่งแสดงถึงการไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ความรู้สึกนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกไม่สบายใจที่เพิ่มมากขึ้นกับพฤติกรรมของดัฟฟี และลักษณะที่ไม่เหมาะสมของการแสดงออกต่อสาธารณะของเขา

ชาวเน็ตอีกรายก็มองว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจเช่นกัน โดยเน้นย้ำถึงการตอบสนองทางอารมณ์เชิงลบอย่างรุนแรงต่อเนื้อหา และตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของดัฟฟี นอกจากนั้ง ยังมีผู้ให้ความเห็นว่า บุคคลสาธารณะแบบดัฟฟี ควรเก็บชีวิตส่วนตัวไว้เป็นส่วนตัว ความคิดเห็นนี้เน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนของเส้นแบ่งระหว่างความเป็นส่วนตัวและพฤติกรรมในที่สาธารณะสำหรับนักการเมืองและบุคคลอื่นๆ ที่มีอำนาจ

บางความเห็นตำหนิในลักษณะประชดประชัน โดยกล่าวว่า ดัฟฟีช่างเป็นแบบอย่างที่ดีจริงๆ ซึ่งเป็นการล้อเลียนความไร้มารยาทของเขา ความคิดเห็นนี้ตอกย้ำความหงุดหงิดที่บางคนรู้สึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาและผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเขาในฐานะบุคคลสาธารณะ นอกจากนั้น ยังมีความเห็นที่ตั้งคำถามถึงพรรครีพับลิกิน ต้นสังกัดของดัฟฟี รวมถึงคำขวัญหาเสียงของพรรคที่ว่า “ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง (Make America Great Again –MAGA)” ว่าพรรคยังรู้สึกปลอดภัยหรือไม่ สะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างการกระทำของดัฟฟีและความสัมพันธ์ทางการเมืองของเขา โดยเพิ่มการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองเข้าไปในการอภิปราย

บางความเห็นใช้กรณีของดัฟฟี โจมตีไปถึงตัวของทรัมป์ด้วย โดยกล่าวว่า นั่นเป็นเรื่องดี ทรัมป์ไม่เลือกเฉพาะคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดสำหรับงานนี้ ซึ่งสื่อความหมายถึงแนวทางการจ้างงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อย่างประชดประชัน โดยใช้ภาพวิดีโอที่สร้างความขัดแย้งของดัฟฟีเป็นตัวอย่างของสิ่งที่บางคนมองว่าเป็นการแต่งตั้งที่น่าสงสัย ผู้แสดงความคิดเห็นรายนี้บอกเป็นนัยว่าพฤติกรรมของดัฟฟีเป็นเพียงตัวอย่างของการขาดความเป็นมืออาชีพที่เห็นได้ในการแต่งตั้งทางการเมืองบางตำแหน่งเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น บางความเห็นได้กล่าวว่า อเมริกาที่ไม่น่าเชื่อ! ไม่มีมาตรฐานหรือการตัดสิทธิ์อีกต่อไปแล้ว! ซึ่งสะท้อนถึงสดงความไม่เชื่อต่อสถานะปัจจุบันของมาตรฐานทางการเมืองและสังคมของอเมริกา โดยแสดงความเสียใจต่อการไม่มี "การตัดสิทธิ์" สำหรับผู้ที่มีอำนาจซึ่งกระทำพฤติกรรมน่าอับอายดังกล่าว ความรู้สึกนี้สะท้อนถึงความหงุดหงิดใจที่เห็นได้ชัดจากการที่มารยาทในที่สาธารณะเสื่อมถอยลง

อีกความเห็นหนึ่งกล่าวถึงพฤติกรรมของ รมว.คมนาคมสหรัฐฯ คนล่าสุดว่า เป็น “การลดระดับความน่าอับอาย” โดยบอกเป็นนัยว่าการกระทำของเขาส่งผลเสียต่อตัวเขาเอง ปฏิกิริยานี้สะท้อนถึงความผิดหวังทั้งในตัวตนของเขาและผลกระทบที่กว้างกว่าต่อผู้ดำรงตำแหน่งสาธารณะ

ขณะที่รายงานข่าว Donald Trump's new Transportation Secretary Sean Duffy seen performing raunchy dance in embarrassing video ของ Daily Mail ให้ข้อมูลว่า คลิปวีดีโอดังกล่าว มาจากรายการเรียลลิตี้ทางโทรทัศน์ The Real World: Boston ของ MTV ในปี 2540 ซึ่งเวลานั้น ดัฟฟี มีอายุประมาณ 20 กว่าปี ขณะที่ปัจจุบันซึ่งเขาดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคมสหรัฐฯ ในวัย 53 ปี

แม้การที่ ฌอน ดัฟฟี เคยไปออกรายการดังกล่าวจะไม่ใช่ความลับ แต่ก็อาจดูแปลกสำหรับผู้ชมยุคใหม่ เนื่องจากเขากำลังมุ่งหน้าไปสู่ความพยายามเพื่อรับรองความปลอดภัยทางการบินของสหรัฐฯ หลังจากที่เพิ่งเกิดภัยพิบัติที่สนามบินเรแกนเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2568 ซึ่งเกิดการชนกันกลางอากาศระหว่างเครื่องบินโดยสารอเมริกันอีเกิลกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพ เพียงหนึ่งวันหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่ง

ในเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งมีผู้เสียชีวิต 67 คน ดัฟฟี กล่าวไปในทางเดียวกับ ปธน.ทรัมป์ เรื่องข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นสมัยรัฐบาลของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ปธน.สหรัฐฯ ก่อนหน้าทรัมป์ ที่มุ่งส่งเสริมค่านิยมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความครอบคลุม (DEI) ทั้งนี้ ดัฟฟีเคยเป็น สส. มาแล้วถึง 5 สมัย จึงรู้จักเส้นทางอาชีพในวอชิงตันเป็นอย่างดี และคาดว่าจะพึ่งพาสายสัมพันธ์เก่าๆ จากรัฐสภา เพื่อช่วยให้ปรับตัวเข้ากับตำแหน่งในฝ่ายบริหารได้อย่างราบรื่น