26 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ตกลงขยายกำหนดเส้นตายในการเจรจาการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ออกไปจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม หลังจากเคยขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากยุโรปในอัตราสูงถึง 50%
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก นางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เปิดเผยว่าเธอได้สนทนาอย่างราบรื่นกับทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยประกาศเรียกเก็บภาษี 20% ต่อสินค้าส่วนใหญ่จาก EU ก่อนจะลดลงมาเหลือ 10% ชั่วคราวจนถึงวันที่ 8 กรกฎาคม เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจา
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์แสดงความไม่พอใจต่อความล่าช้าในการเจรจา พร้อมขู่จะเพิ่มภาษีเป็น 50% ภายในวันที่ 1 มิถุนายน โดยกล่าวต่อสื่อว่า ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปให้คำมั่นว่า “เราจะพบกันเร็ว ๆ นี้ และพยายามหาทางออกร่วมกัน” พร้อมโพสต์ใน Truth Social ว่าเขารู้สึก “เป็นเกียรติ” ที่ได้ขยายเวลาให้
ด้าน EU เองก็ยืนยันความพร้อมในการเจรจา โดย นายมารอช เชฟโควิช หัวหน้าฝ่ายการค้าของ EU เปิดเผยว่า
“EU มุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับทั้งสองฝ่าย” หลังจากพูดคุยกับตัวแทนการค้าสหรัฐฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ
เขาเน้นว่า “การค้าระหว่าง EU กับสหรัฐฯ นั้นไร้คู่เปรียบเทียบ และควรดำเนินไปด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ด้วยการข่มขู่”
ทั้งนี้ ทรัมป์มักแสดงความไม่พอใจต่อความสัมพันธ์ทางการค้ากับ EU ที่เขามองว่าไม่เป็นธรรม แม้ EU จะเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยปีที่ผ่านมา EU ส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 21.9 ล้านล้านบาท) ไปยังสหรัฐฯ ขณะที่นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพียง 370,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 13.5 ล้านล้านบาท) เท่านั้น
สินค้าที่ถูกจับตาในข้อพิพาทการค้ารอบนี้ ได้แก่ รถยนต์และสินค้าเกษตร ขณะที่ภาษี 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมจาก EU ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ แม้จะมีการระงับภาษีบางรายการชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้การเจรจา
ฝั่งยุโรปยังคงย้ำจุดยืนไม่ต้องการให้ความขัดแย้งลุกลาม โดย ฝรั่งเศสและเยอรมนี เรียกร้องให้ใช้แนวทางทางการทูต พร้อมเตือนว่าการขึ้นภาษีจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย
ด้าน EU เองเคยเตรียมตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 18,000 ล้านยูโร (ประมาณ 702,000 ล้านบาท) ในอัตรา 25% แต่ได้ระงับไว้ชั่วคราว และยังอยู่ระหว่างหารือมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งอาจครอบคลุมสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่าสูงถึง 95,000 ล้านยูโร (ประมาณ 3.705 ล้านล้านบาท)
ขอบคุณข้อมูลจาก : BBC
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี